กมธ.วิสามัญฯ มีมติเอกฉันท์ตัดงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำปี 64 ของกองทัพเรือ

ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 เสียง เห็นชอบให้ตัดงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ของกองทัพเรือออกไป

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่า กองทัพเรือได้ทำหนังสือมายังคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงถึงความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำแต่ขณะเดียวกันก็เห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายพอที่จะนำไปสู่ความมั่นใจได้ ดังนั้นจึงจะขอเลื่อนการชำระเงินออกไป โดยยอมให้ตัดลดงบจำนวน 3,925 ล้านบาท ออกจากงบประมาณในปี 2564 โดยกองทัพเรือ และกระทรวงกลาโหมจะไปเจรจากับประเทศผู้ผลิต เพื่อให้มีเรือดำน้ำต่อไปในอนาคต

“จากการสอบถามและพูดคุยกับกรรมาธิการฯต่างมีความเห็นตรงกันว่ากรณีเรือดำน้ำมีความจำเป็น และเห็นว่าจำนวน 3 ลำน้อยไปด้วยซ้ำ เนื่องจากไทยมีทะเลอยู่ 2 ฝั่ง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับทะเลหลายพันกิโลเมตร และไกลออกไปก็มีพื้นที่ทับซ้อนด้านความมั่นคง และในเรื่องเรือดำน้ำ 2 ลำนี้ได้ผ่านมาในงบประมาณปี 2563 แล้วแต่ด้วยความปรารถนาดีที่กองทัพเรือ เห็นแก่ประชาชน ได้ส่งงบประมาณส่วนนั้นคืน เพื่อให้รัฐบาลนำเงินมาใช้แก้ไขปัญหาโควิด-19

แต่แนวโน้มปี 2564 ปรากฏว่าโควิด-19 ก็ยังไม่คลี่คลายจนนำไปสู่ความมั่นใจ พวกเราจึงเห็นว่าแม้เรือดำน้ำจะจำเป็น จึงพยายามขอให้กองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม และรัฐบาล ขอเลื่อนงบประมาณเพื่อจะไปจ่ายในปีถัดไป ทางกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือได้ ทำหนังสือแจ้งมาว่า ในปีงบประมาณ 2564 นั้น กองทัพเรือยินดีให้ปรับลดงบประมาณในส่วนที่จะต้องไปจ่ายโดยเลื่อนออกไปก่อน แล้วกองทัพเรือค่อยไปเจรจากับผู้ผลิตว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรในการที่จะให้ประเทศไทยมีเรือดำน้ำตามความประสงค์ แต่ในปีงบประมาณ 2564 นั้นให้เลื่อนไปก่อน สรุปคือปีนี้ ก็เลื่อนงบประมาณก้อนแรกในการที่จะไปจ่าย”

นายสันติกล่าว

ด้านพลเรือโทธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารเรือ ส่งหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อขอปรับลดงบประมาณการจัดหาเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ ในงวดปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3,925 ล้านบาท เนื่องจากคำนึงถึงเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า แม้การปรับลดงบประมาณครั้งนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผนงานของกองทัพเรือ และก็จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในภาพรวม แต่กองทัพเรือก็ตระหนักถึงความจำเป็นตามสถานการณ์ของประเทศ และเห็นว่าการเลื่อนจัดซื้อเรือดำน้ำ มีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ จึงยอมปรับลดงบประมาณ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top