หุ้นไทยปิดบวก 1.65 จุด กลุ่มโรงไฟฟ้า-สื่อสารถ่วง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,535.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.65 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 69,363.97 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแต่ไม่แรงเท่าตลาดภูมิภาคที่บวกเกือบ 2% หลังจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกงพุ่งขึ้น ด้านตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกราว 0.5% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็แกว่งในแดนบวกด้วย แสดงให้เห็นเงินไหลเข้าต่อเนื่อง

ส่วนบ้านเราได้รับแรงถ่วงจากกลุ่มโรงไฟฟ้า-สื่อสารที่มีแรงขายมาก แต่กลุ่มรับเหมาฯ-แบงก์-อิเล็กทรอนิกส์หนุนตลาดฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณางบประมาณปี 63 ในวันพรุ่งนี้ หากจบเร็วจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้ พรุ่งนี้ตลาดฯยังมีลุ้นปรับขึ้นได้ จาก Sentiment โดยรวมที่ยังเป็นบวก พร้อมให้แนวรับ 1,530 แนวต้าน 1,550 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,535.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.65 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 69,363.97 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,541.81 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,530.51 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 866 หลักทรัพย์ ลดลง 746 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 455 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแต่ไม่แรงเท่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่บวกได้เกือบ 2% หลังจากที่จีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้บวกราว 0.5% และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกด้วย แสดงให้เห็นเม็ดเงินไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง

ส่วนบ้านเราได้รับแรงถ่วงจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มสื่อสาร ที่มีแรงขายออกมามาก แต่หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มธนาคาร และส่งออกพวกอิเล็กทรอนิกส์ต่างปรับตัวขึ้น หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตราขึ้น โดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ซึ่งหากจบได้เร็วก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า Sentiment โดยรวมยังเป็นบวก ดังนั้นตลาดฯจึงยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,474.46 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 4,147.11 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 2,630.44 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง 4.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,536.68 ล้านบาท ปิดที่ 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,224.28 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.พ. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top