สหรัฐวิจารณ์เฟซบุ๊กกรณีไม่จัดการข้อมูลเท็จเรื่องโควิดและวัคซีน

นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของอินสตาแกรมและวอทส์แอป ไม่ได้ดำเนินการที่มากเพียงพอในการหยุดยั้งการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโรคโควิด-19 และวัคซีน และเฟซบุ๊กต้องพยายามให้มากกว่านี้ในการกำจัดข้อมูลเท็จเรื่องวัคซีนออกจากแพลตฟอร์มของบริษัท โดยการวิพากษ์วิจารณ์เฟซบุ๊กในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามครั้งใหม่ของรัฐบาลสหรัฐในการต่อสู้กับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในประเทศ

นางซากีอ้างถึงรายงานของศูนย์การต่อต้านความเกลียดชังทางออนไลน์ (Center for Countering Digital Hate หรือ CCDH) ที่ระบุว่า มีบุคคลเพียง 12 คนที่เป็นต้นตอของการเผยแพร่ข้อมูล 65% ของข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการต่อต้านการฉีดวัคซีนในแพลตฟอร์ม

“บุคคลที่เป็นต้นตอการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเหล่านี้ยังคงใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กได้อยู่” นางซากีเผย พร้อมกับเสริมว่า “เฟซบุ๊กจะต้องดำเนินการลบโพสต์ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบและเป็นอันตรายให้รวดเร็วกว่านี้”

นอกจากนี้ นพ.วิเวก เมอร์ธี แพทย์ใหญ่ของสหรัฐ ยังได้เตือนเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 และวัคซีน โดยกล่าวว่า การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทำให้การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด รวมถึงการช่วยชีวิตประชาชนนั้น เป็นไปได้อย่างยากลำบากมากขึ้น

“ชีวิตของประชาชนชาวอเมริกันกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง” 

นพ.เมอร์ธีเผย

นพ.เมอร์ธีประกาศคำแนะนำเป็นครั้งแรกในฐานะแพทย์ใหญ่สหรัฐภายใต้การบริหารของปธน.ไบเดน โดยเรียกร้องให้บริษัทด้านเทคโนโลยีต่างๆ ปรับเปลี่ยนอัลกอริธึมเพื่อปิดกั้นข้อมูลเท็จ และเปิดเผยข้อมูลต่อนักวิจัยและรัฐบาลให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ครูผู้สอน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และสื่อมวลชนสามารถต่อกรกับข้อมูลเท็จได้

“การเผยแพร่ข้อมูลเท็จด้านสุขภาพเป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบบสาธารณสุข เพราะอาจทำให้เกิดความสับสน, ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ, ทำร้ายสุขภาพของประชาชน ตลอดจนขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ การจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลเท็จด้านสุขภาพถือเป็นหน้าที่ทางจริยธรรมและหน้าที่ในฐานะพลเมือง”

นพ.เมอร์ธีระบุในคำประกาศ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top