SENA หั่นเป้ายอดขาย-ยอดโอนหลังปรับลดจำนวนโครงการใหม่รับผลกระทบโควิดกดกำลังซื้อ

นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายยอดขายในปีนี้ลงเหลือ 7.11 พันล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท หลังจากบริษัทตัดสินใจลดจำนวนการเปิดโครงการใหม่ โดยเลื่อนบางโครงการไปเปิดตัวในปี 65 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบต่อกำลังซื้อ

ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค. 64) บริษัททำยอดขายได้แล้ว 3.2 พันล้านบาท แต่มองว่าจะมียอดขายเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4/64 ซึ่งจะเป็นช่วงที่บริษัทกลับมาเปิดโครงการเป็นจำนวนมาก และปกติเป็นช่วงที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น

บริษัทได้ปรับลดแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เหลือ 14 โครงการ มูลค่ารวม 1.05 หมื่นล้านบาท จากแผนเดิม 18 โครงการ มูลค่า 1.67 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งกระทบต่อการเปิดโครงการใหม่ อีกทั้งการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเริ่มเห็นการชะลอตัว เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์โควิด-19 บริษัทจึงเลื่อนแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการไปเป็นปี 65 แทน

ช่วงครึ่งปีแรก บริษัทเปิดโครงการใหม่ไปเพียง 1 โครงการในไตรมาส 1/64 คือ โครงการ SENA KITH เวสเกต-บางบัวทอง และไม่ได้มีการเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 2/64 แต่ช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทเริ่มทยอยเปิดโครงการใหม่ออกมาบ้าง โดยไตรมาส 3/64 เปิดตัว 4 โครงการ มูลค่า 2.3 พันล้านบาท ซึ่งได้เปิดโครงการ SENA KITH ลาดกระบัง-ฉลองกรุง เฟส 1 ไปแล้ว มียอดจอง 500 ห้อง และเตรียมจะเปิดเฟส 2 ในเดือนก.ย.นี้ พร้อมกับอีก 2 โครงการที่เหลือ

ส่วนไตรมาส 4/64 จะมีจำนวนโครงการที่เปิดตัวมากที่สุด 9 โครงการ มูลค่า 7 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายมากขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 เป็นต้นไป และภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มฟื้นกลับมา หลังจากผู้ซื้อเริ่มมั่นใจในสถานการณ์และกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น

“จากช่วงที่มีการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ว่าลูกค้าที่ walk-in เข้าชมโครงการน้อยลง และการตัดสินใจซื้อนานขึ้น มองว่าจากสถานการณ์โควิดในช่วงที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความไม่มั่นใจส่งผลให้การซื้อก็ชะลอไป จากสภาพตลาดที่เป็นในช่วงที่ผ่านมาทำให้บริษัทมองว่ายังไม่เร่งการเปิดโครงการ แต่รอจังหวะที่ตลาดเริ่มกลับมาแล้วเราถึงเริ่มลุยเต็มที่ แต่มีบาง Segment ที่ยังได้ผลตอบรับดี อย่าง SENA KITH ที่เป็นโครงการต่ำล้านของเรา ยอดขายก็ยังถือว่าทำได้ดีในช่วงเปิดตัว”

นางอธิกา กล่าว

ส่วนยอดโอนของบริษัทได้ปรับลดลงมาเหลือ 6.94 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของมาตรการปิดแคมป์คนงานที่ทำให้การโอนบางโครงการช่วงครึ่งปีหลังต้องเลื่อนออกไป โดยเฉพาะ 2 โครงการ คือ โครงการ Nich Mono Mega Space บางนา มูลค่า 2.4 พันล้านบาท และโครงการ Nich Mono อิสรภาพ มูลค่า 849 ล้านบาท ที่จะมีความล่าช้าในการโอนห้องให้กับลูกค้าไปบ้าง แต่จะเริ่มทยอยโอนในช่วงปลายไตรมาส 3/64 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/64 ทำให้ยอดโอนจะเกิดการชะลอตัวขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการเตรียมรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายนรอโอน (Backlog) เข้ามาอีก 3.68 พันล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด 7.05 พันล้านบาท ประกอบกับ ยังคงมีการจัดแคมปเปญเสนอราคาขายพิเศษ และแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเร่งระบายสต็อกออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสต็อกที่เหลือขายเป็นที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่รวมกว่า 5 พันล้านบาทที่สามารถขายและสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัทได้ทันที โดยที่บริษัทยังคงมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นดึงดูดผู้ซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top