นายกฯ ย้ำแนวทางพัฒนาประเทศเตรียมความพร้อมรับความท้าทายรูปแบบใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานรับฟังแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 63 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพของทั้งสามเหล่าทัพประจำปีการศึกษา 2563 ผ่านระบบ Virtual Presentation

โดยคณะนักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 63 ได้จัดทำข้อเสนอแนวทางการพัฒนาประเทศเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้ความสำคัญใน 2 มิติ คือ มิติความมั่นคง มุ่งเน้นการบริหารจัดการความมั่นคง เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และ 2. มิติการพัฒนาประเทศ มุ่งเน้นการปรับตัวให้มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศในด้านต่าง ๆ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการผลักดันการพัฒนา 3 ประการ เพื่อสร้างโอกาสประเทศไทย ได้แก่ 1.เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลของประเทศให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง จัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งในอนาคต “ข้อมูล” จะเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าและมีความสำคัญไม่ต่างจากทรัพยากรอื่น ๆ

2.เร่งสร้างความแข็งแกร่งจากเศรษฐกิจภายในประเทศ กระจายโอกาสทางเศรษฐกิจลงไปในระดับพื้นที่ เพิ่มสัดส่วนของเศรษฐกิจดิจิทัลให้มีสัดส่วนที่สูงขึ้น ภายใต้แนวคิดโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Economy)

3.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รัฐบาลพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ และต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร พัฒนา และขับเคลื่อนประเทศ เพื่อเชื่อมโยงประชาชนให้เป็นศูนย์กลางการบริหารราชการอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงการเตรียมความพร้อมประเทศ เผชิญกับความท้าทายรูปแบบใหม่ โดยความปกติใหม่จะถูกแทนที่ด้วย “ความปกติถัดไป หรือที่เรียกว่า Next Normal” ดังนั้น ต้องใช้โอกาสนี้ พลิกโฉมประเทศไทย ยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยให้มีธุรกิจที่มูลค่าสูงเกิดขึ้น (Unicorn) ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และขยายไปยังนานาประเทศด้วย

ซึ่งนายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอแนวทางการพัฒนาประเทศฯ วปอ. รุ่นที่ 63 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมพร้อมประเทศรองรับเทคโนโลยีดิจิทัลสู่อนาคต ซึ่งตรงกับนโยบายที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยสถาบัน IMD ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 28 จากทั้งหมด 64 ประเทศ มีอันดับที่ดีขึ้นจากปีที่แล้ว การจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจโดยธนาคารโลก ไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 190 ประเทศ จากเดิมที่อยู่อันดับที่ 27 ในปีที่แล้วโดยเป็นอันดับที่สูงที่สุดในรอบ 6 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของรัฐบาลในการเดินหน้ายกระดับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวหน้าในระดับสากลอย่างจริงจัง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top