UBE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 2.34 บาท ต่ำกว่าราคาขาย IPO 2.50%

หุ้น UBE ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 2.34 บาท ลดลง 0.06 บาท (-2.50%) จากราคาขาย IPO ที่ 2.40 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,040.26 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.28 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.26 บาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินราคาเป้าหมายปี 65 ของบมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) เท่ากับ 3.05 บาท อ้างอิงวิธี Weighted Average PE ที่ 22.5 เท่า คำนวณจาก PE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของกลุ่มพลังงานและกลุ่มอาหาร โดยนำมาคิดค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักแต่ละกลุ่มตามประมาณการสัดส่วนรายได้ปี 2565 ของธุรกิจเอทนอลกับกลุ่มแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อื่น

ทั้งนี้ ประมาณการรายได้และกำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ปี 63-66 (CAGR) ราว 14% ต่อปี และกำไรเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 86% ต่อปี เติบโตในอัตราเร่งที่สูงกว่าการเติบโตของรายได้

โดย IPO ครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตแป้งฟลาว 200 ตัน/วัน สร้างสายการผลิตสารให้ความหวานและมอลโทเดกซ์ทริน 300 ตัน/วัน ลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแป้งมันสำปะหลัง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อวัตถุดิบและชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน

ความน่าสนใจในการลงทุน UBE

1. บริษัทมีฐานรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจเอทานอล มีกำลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ โดยโรงงานของ UBE ใช้เทคโนโลยี Hybrid สามารถรองรับการผลิตได้ทั้งเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงและเกรดอุตสาหกรรม และเป็นพันธมิตรทางการค้าที่แข็งแกร่ง ทั้งกลุ่ม TOP และ BCP ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ที่มีความต้องการใช้เอทานอลในระดับสูง

2. โอกาสการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่มีอัตรากำไรสูง การเติบโตของปริมาณการขายแป้งมันออร์แกนิคปี 2560-2563 มีการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ราว 71% ต่อปี โดยผลิตภัณฑ์แป้งมันออร์แกนิคมีอัตรากำไรขั้นต้นราว 24-37% ขณะที่แป้งมันธรรมดามีอัตรากำไรขั้นต้นที่ราว 11-13% เท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนุนผลประกอบการในอนาคต

3. ทำเลที่ตั้งได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ โรงงานอยู่ใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมันสำปะหลังราว 10% ของผลผลิตทั้งประเทศ โดยโรงงานอยู่ห่างจากคู่แข่ง และติดกับประเทศลาว กัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกมันออร์แกนิค รวมถึงกาแฟออร์แกนิคที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

4. บริษัทมีเครือข่ายเกษตรกรที่เข้มแข็ง ส่งผลดีต่อความมั่นคงทางวัตถุดิบ โดยทั้งหมดเป็นการรับซื้อจาก Contract farm โดยเฉพาะฟาร์มออร์แกนิคที่บริษัทมีการตรวจสอบสถานที่เพราะปลูกปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน

5. บริษัทมีพันธมิตรด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง โดยมีทั้งหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของ UBE เอง และพันธมิตร เช่น สถาบันนวัตกรรม ปตท. สวทช. สกสว. สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นต้น

UBE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศ โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เอทานอล แป้งมันสำปะหลัง ทั้งแบบทั่วไปและออร์แกนิค รวมถึงธุรกิจเกษตรอินทรีย์ เช่น กาแฟและข้าวออร์แกนิค เป็นต้น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top