หุ้นบริษัทวัคซีนในเอเชียร่วงหนัก หลัง “เมอร์ค” คืบหน้าทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ป้องกันโควิด

ราคาหุ้นบริษัทผลิตวัคซีนในภูมิภาคเอเชียร่วงลงในช่วงเช้านี้ หลังจากเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลการทดลองระบุว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ของทางบริษัทซึ่งเป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 นั้น มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ ยังสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 50%

ราคาหุ้น Fosun Pharma ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไบออนเทค-ไฟเซอร์ในจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วงหนักถึง 21% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้านี้ ขณะที่ราคาหุ้น CSPC Pharmaceutical Group และหุ้น Wuxi Biologics (Cayman) ดิ่งลงกว่า 7% ในตลาดหุ้นฮ่องกง

ส่วนราคาหุ้น JCR Pharmaceuticals ซึ่งทำสัญญาการผลิตวัคซีนร่วมกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และหุ้น Fujifilm Holdings ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดตรวจเชื้อโควิด-19 ต่างก็ร่วงลง 5% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียว

บริษัทเมอร์คได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (1 ต.ค.) ว่า ทางบริษัทเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกรณีฉุกเฉิน หลังการทดลองทางคลินิกได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ

ผลการทดลองในระยะที่ 3 พบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับยาโมลนูพิราเวียร์จำนวนเพียง 7.3% ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลภายในเวลา 29 วัน และไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอกจำนวน 14.1% ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลภายในเวลา 29 วัน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 ราย

ทั้งนี้ เมอร์คกำลังทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ร่วมกับบริษัทริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ ซึ่งเป็นการทดลองในระยะที่ 3 โดยแบ่งเป็นการทดลองสำหรับยารักษา และยาป้องกันโรคโควิด-19

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า เมอร์คได้เริ่มผลิตยาโมลนูพิราเวียร์แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถผลิตได้ 10 ล้านเม็ดภายในสิ้นปีนี้ และจำนวนมากขึ้นในปีหน้า

แม้ว่าขณะนี้ยาโมลนูพิราเวียร์ยังไม่ได้รับการรับรองจาก FDA แต่หลายประเทศทั่วโลกก็ได้เริ่มสั่งยาโมลนูพิราเวียร์จากเมอร์คแล้ว ซึ่งรวมถึงสหรัฐ โดยทางบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากรัฐบาลสหรัฐในการจัดส่งยาจำนวน 1.7 ล้านเม็ด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top