รมว.คลัง มั่นใจ GDP ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 1% หลังเปิดประเทศช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เชื่อว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2564 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 1% หลังจากเริ่มมีการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. ซึ่งจะทำให้มีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทยในช่วงปลายปีนี้จะเป็นการเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม และคาดว่าในปี 65 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6 ล้านคน

พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 64 จะมีการเติบโตเป็นบวก เช่นเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโต 2%

“ภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการเปิดเมือง ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น แต่อีกส่วนก็ต้องขึ้นอยู่กับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยด้วย เชื่อว่าเมื่อมีการเปิดเมือง การเดินทางจะสะดวกสบายมากขึ้น ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวได้ดีขึ้น” นายอาคม กล่าว

นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออก และราคาพืชผลทางการเกษตรที่มีทิศทางขยายตัวได้เป็นอย่างดี ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันงบประมาณปี 2565 ที่เริ่มมีผลบังคับใช้และมีการเบิกจ่ายแล้ว ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดการเบิกจ่ายโดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กที่มีระยะเวลาดำเนินการ 3-6 เดือน จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ทิศทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4/64 ขยายตัวได้ดี ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ 2%

รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่วนข้อเสนอให้นำโครงการ “ช้อปดีมีคืน” กลับมาใช้อีกครั้งนั้น คงต้องขอหารือและพิจารณาในรายละเอียดก่อน เพราะก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งอนุมัติเติมเงินโครงการคนละครึ่งเพิ่มอีก 1,500 บาท ซึ่งจะช่วยทำให้การจับจ่ายใช้สอยคึกคักต่อเนื่อง อีกทั้งกระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่มสิทธิในโครงการคนละครึ่ง จากปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิครบแล้ว 28 ล้านคน

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นของทุกปีที่ปลายปีจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว มีความต้องการใช้น้ำมันในทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลอยู่ และเป็นกลไกที่จะเข้ามาดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำมาทุกรัฐบาล และยังไม่มีการพูดถึงการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top