CIVIL สบช่องโอกาสโตปี 65 จากงานก่อสร้างภาครัฐคาดอัดงบถึง 8.58 แสนลบ.

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการ บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง (CIVIL) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองโอกาสของงานก่อสร้างในปี 65 ยังมีอีกมาก เนื่องจากนโยบายของภาครัฐ ที่ได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ และวางรากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านคมนาคมในภูมิภาคอาเซียน ทำให้ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างไทยขยายตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้ประเมินปี 65 จะมีโครงการลงทุนต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและสาธารณูปโภค เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 โครงการเมืองการบินภาคตะวันออกเฟส1 รวมถึงการเปิดประมูลเมกะโปรเจกต์ในโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม ครอบคลุมการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า โครงการรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง โครงการขยายและปรับปรุงท่าอากาศยานในภูมิภาค โครงการงานทางและทางยกระดับ จึงคาดว่างบประมาณลงทุนก่อสร้างภาครัฐจะเพิ่มขึ้น 6-7% เป็นประมาณ 858,000 ล้านบาท ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวไปทิศทางใกล้เคียงกัน ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งมากขึ้น

ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านงานก่อสร้างและวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร ที่ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโครงการก่อสร้าง และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับเหมาขั้นสูงสุด เข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเข้าร่วมประมูลโครงการภายใต้บริษัทฯ หรือเข้าร่วมในโครงการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) รวมถึงการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมบริหารโครงการ เพื่อส่งมอบงานก่อสร้างที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ภายในระยะเวลาที่กำหนด

“เรามีทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคง และเราพร้อมปรับตัวไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจากการเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และยังมีการพัฒนาขีดความสามารถในทุกด้าน เพื่อให้องค์กรมีศักยภาพเข้าร่วมพัฒนาโครงการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมไทย เพื่อวิถีชีวิตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน”

นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIVIL กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เข้าบริหารโครงการก่อสร้างที่มีความหลากหลายด้านทั้งประเภทและขนาดโครงการ จากการเขารับงานก่อสร้างทั้งในรูปแบบการประกวดราคาโดยบริษัทฯ และรับช่วงงานจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนขนาดใหญ่รายอื่น โดยโครงการใหญ่สุดที่อยู่ในระหว่าง ดำเนินงานก่อสร้างของบริษัทฯ มีมูลค่าสูงถึง 8,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่าสัญญาโครงการก่อส้รางที่รอการส่งมอบ (Backlog) ณ ปัจจุบันกว่า 10,000 ล้านบาท

ซึ่ง Backlogครอบคลุมทั้งงานทางรถไฟ งานทางรถไฟความเร็วสูง งานทางและทางยกระดับ งานท่าอากาศยาน งานเขื่อนและอางเก็บน้ำ และงานด้านสาธารณูปโภคอื่นๆ อาทิ เช่น โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา)

สัญญาที่ 2-1 งานโยธาสำหรับช่วงสีคิ้ว-กุดจิก และ สัญญาที่ 4-7 งานโยธา สำหรับช่วงสระบุรี-แก่งคอย, โครงการรถไฟทางคู่สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร, โครงการทางหลวงหมายเลข 3901 วงแหวนตะวันตก สายทางบริการด้านนอกของทางหลวงหมายเลข 9, โครงการทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.ปากเกร็ด-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี, งานเสริมความแข็งแรงทางวิ่ง ก่อสร้างทางขับและลานจอดพร้อมระบบไฟสนามบิน ท่าอากาศยานตรัง, งานขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ตามมาตรฐาน ICAO สำหรับรองรับอากาศยานแบบ B77 A320 ท่าอากาศยานหัวหิน, โครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก สัญญาที่ 1, โครงการก่อสร้างสะพานลอยเดินเท้า(Skywalk) สายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน เชื่อมระบบขนส่งมวลชนเพื่อสาธารณประโยชน์, โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตราด

CIVIL ดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและบริหารโครงการก่อสร้าง โดยมีความชำนาญงานก่อสร้างที่หลากหลายทั้งรูปแบบและประเภทงานโครงการ

2.กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ที่บริษัทฯ มีแหล่งเหมืองหินปูนที่มีคุณภาพและโรงงานวัสดุก่อสร้างจำนวน 11 แห่ง ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ เพื่อใช้ในงานก่อสร้างของบริษัทฯ และจำหน่ายให้แก่คู่ค้า รวมถึงมีเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าระดับโลกที่ช่วยสนับสนุนต้นทุนดำเนินงานก่อสร้างที่ดี

3.ธุรกิจให้บริการอสังหาริมทรัพย์และให้เช่าเครื่องมือเครื่องจักร โดยเป็นผู้ให้เช่าอาคารสำนักงานและพื้นที่เชิงพาณิชย์และให้เช่าเครื่องมือเครื่องจักร เช่น รถเครน รถแบ็คโฮ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่การดำเนินธุรกิจ และสอดคล้องกระแสของ Sharing Economy ของโลก เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจร่วมเติบโตไปด้วยกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top