รมว.เกษตรฯ สั่งเร่งหารือจีนแก้ปัญหาด่านส่งออกผลไม้ติดขัดจากมาตรการซีโร่โควิด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เข้มงวดของด่านนำเข้าจีน ส่งผลต่อการส่งออกผลไม้ของไทยเป็นอย่างมาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการและบริหารการจัดการผลไม้ (Fruit Board) จึงสั่งการทูตเกษตรเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหารือฝ่ายจีนเพื่อแก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกการขนส่งผลไม้ไทย

ล่าสุดได้รับรายงานจากฝ่ายการเกษตร ประจำสถานกงศุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ว่า จากการที่ด่านของจีนมีมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด (Zero Covid) ที่อาจติดมากับการขนส่งสินค้าผ่านห่วงโซ่ความเย็นที่เข้มงวด ส่งผลต่อการบริหารจัดการรถบรรทุกสินค้านำเข้าและส่งออกผ่านด่านโหย่วอี้กวน และด่านตงซิง เขตฯ กว่างซีจ้วง ทำให้ปริมาณรถผ่านเข้าออกลดลงจากเดิมมาก และมีรถติดสะสมหน้าด่านจำนวนมาก ทั้งนี้ จากมาตรการของด่าน ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการผ่านด่านมากกว่าช่วงปกติ ส่งผลให้ปริมาณรถเข้า-ออกด่านลดลงจากช่วงปกติกว่า 50%

นอกจากนี้ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจว ได้ประสานงานด่านรถไฟผิงเสียงในการเร่งกลับมาเปิดบริการ เพื่อช่วยในการกระจายสินค้าผลไม้ไทยจากด่านโหย่อี้กวน และด่านตงซิง ซึ่งปัจจุบันมีปัญหารถติดสะสมจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ได้นัดหมายประชุมหารือกับนายกเทศมนตรีเมืองตงซิง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมืองตงซิงในวันที่ 16 ธ.ค. นี้ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหารถติดที่ด่านตงซิง และการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านด่านตงซิง

สำหรับด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนาน ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจว ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงทดลองการเดินรถ โดยด่านบ่อเต็นฝั่ง สปป.ลาว อนุญาตให้ทดลองปล่อยรถขนส่งผลไม้ไทยเข้าจีนได้วันละ 5 คัน หากไม่พบปัญหาการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ด่านโม่ฮานจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า เส้นทางรถไฟระหว่างนครคุนหมิง-เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) เป็นอีกหนึ่งโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศจีน ซึ่งได้รับรายงานว่า จีนอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมของจุดตรวจสอบกักกันผลไม้นำเข้า คาดว่าจะสามารถเปิดนำเข้าผลไม้ไทยได้ในต้นปีหน้า รวมทั้งขอให้ผู้ประกอบการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องส่งสินค้าผ่านด่านทางบกของเขตฯ กว่างซีจ้วง และมณฑลยูนนาน

“กรณีที่มีข่าวว่า มีผลไม้จีนทะลักเข้าไทยผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ลาว นั้น ไม่เป็นความจริง ด่านตรวจพืชหนองคายยังไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากจีน แม้แต่ตู้เดียว”

นายอลงกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่เส้นทางรถไฟดังกล่าวเปิดบริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา จีนได้มีการทดลองขนส่งผักมาไทย จำนวน 33 ตู้ และจะมีไม้ตัดดอกเข้ามาอีก 2 ตู้ในวันที่ 15 ธ.ค. และผักอีก 26 ตู้ในวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งยังเป็นปริมาณที่น้อยมาก ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนการขนส่งจากรถเทรลเลอร์บนเส้นทาง R3A มาเป็นรถไฟ เพราะมาตรการป้องกันโควิด ส่งผลให้ด่านโมฮ่านของจีนติดขัดแออัดอย่างหนัก นอกจากนี้ จีนยังประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ในการขนส่ง และการจองตู้ล่วงหน้าซึ่งทำได้ยากมาก

ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้ามากว่า 1 ปี โดยเมื่อมีการทดลองขนส่งล็อตแรกของจีนมาไทยได้สำเร็จในวันที่ 3 ธ.ค. จึงได้มีการมอบหมายให้ประชุมร่วมกับสมาคม และสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทย และให้ติดต่อกับบริษัทจีน เพื่อร่วมมือในการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย โดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่บริษัทดังกล่าวขนสินค้าจีนมาไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเป็นการขนส่งทั้งขาไป และขากลับ

“ถ้าเขามา 100 ตู้ก็ขนสินค้าเกษตรของเรากลับไป 100 ตู้เช่นกัน เรียกว่าวินวินทั้ง 2 ฝ่าย ช่วงนี้ยังไม่คล่องตัวนักเนื่องจากเพิ่งเริ่มเปิดบริการ ต้องพร้อมทั้งฝ่ายเขาฝ่ายเรา สำหรับสินค้าเกษตรอื่นๆ อยู่ระหว่างเตรียมการส่งออก ได้แก่ กล้วยไม้ และยางพารา บนเส้นทางรถไฟไทย-จีน-ลาว ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมผู้ผลิตและส่งออกกล้วยไม้ เพื่อให้สามารถส่งออกโดยใช้เส้นทางดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการส่งออกสินต้าเกษตรอื่นๆ ด้วย เท่าที่ทราบจีนจะพร้อมหลังตรุษจีนปีหน้า”

นายอลงกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากสถิติการส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนของกรมวิชาการเกษตร พบว่าเดือนม.ค. 64-ปัจจุบัน ไทยส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน มีปริมาณกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน ตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top