แนวโน้มหุ้นไทยเช้านี้ขึ้นตาม ตปท.ระวังผันผวนจาก OR-DELTA,เกาะติดอภิปรายฯ

นักวิเคราะห์ฯเล็งตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาคแกว่งบวกเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพุ่งกว่า 200 จุด ตอบรับสภาคองเกรสเตรียมตั้งคกก.เฉพาะกิจตรวจสอบเหตุจลาจลในรัฐสภาสหรัฐเชื่อช่วยป้องกันความวุ่นวาย และตลาดฯยังมีกระแสบวกจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนสินทรัพย์เสี่ยง-ดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อเนื่องหนุน Fund Flow ไหลเข้า แต่ยังต้องระวังความผันผวนระหว่างทางทั้งจาก OR-DELTA แนะติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้-บจ.ทยอยประกาศงบฯ ให้แนวรับ 1,513 แนวต้าน 1,530 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวบวกเล็กน้อย แม้ตลาดสหรัฐ และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องในวันประธานาธิบดี แต่ยังมีกระแสบวกการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ก็ยังอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องช่วยหนุน Fund Flow ไหลเข้า แต่เมื่อวานนี้ตลาดบ้านเรานักลงทุนต่างชาติก็ได้ซื้อสุทธิ 1,618.67 ล้านบาท

นอกจากนี้ เช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ภายหลังมีข่าวล่าสุดว่านางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ เปิดเผยว่า สภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ปีนี้ ซึ่งตลาดฯ มองว่าจะช่วยดูแลความเรียบร้อยไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก

อย่างไรก็ดี ตลาดอาจเผชิญความผันผวนในระหว่างทางได้จากหุ้น DELTA ที่ขยายระยะเวลาการใช้ Cash Balance และหุ้น OR ถือว่าแพงแล้วจากราคาปิดวานนี้ที่ 34 บาท แตะ P/E ย้อนหลังที่ 50 เท่า และมีโอกาสใช้เกณฑ์ Cash Balance ด้วย ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสลดความร้อนแรงลงบ้าง จากเมื่อวานนี้ที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปมากรับแรงหนุนจากหุ้น DELTA และ OR เป็นหลัก

ทั้งนี้ แนะติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,513 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ (15 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดี
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 145.26 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 502.25 จุด ส่วนตลาดหุ้นจีนยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 11-17 ก.พ.
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.พ.) 1,522.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.37 จุด (+0.95%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,618.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 64
  • ตลาดไนเม็กซ์ปิปิดทำการ (15 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดี
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.พ.) อยู่ที่ 1.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 29.87 แข็งค่าจากวานนี้ คลายกังวลโควิด-19 ให้กรอบวันนี้ 29.83-29.93
  • สศช.เผยจีดีพี 2563 หดตัว 6.1% ผลจากโควิด คาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 2.5-3.5% ห่วงปัจจัยไม่แน่นอนภาคท่องเที่ยวฉุดการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แนะรัฐบาลปรับแผนกระจายวัคซีนให้ภาคท่องเที่ยว หวังช่วยแรงงาน พร้อมหนุนเศรษฐกิจฟื้นเร็วขึ้น
  • รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือการขอรับการสนับสนุนเพื่อประกอบการพิจารณาเปิดเส้นทางบินดอนเมือง-เบตง และเบตง-ดอนเมือง ที่ท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ว่า ทางสายการบินนกแอร์ได้ขอรับการสนับสนุนเพื่อพิจารณาในการเปิดเส้นทางบินดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง รวมถึงสายการบินบางกอกแอร์เวย์สที่ให้ความสนใจเปิดให้บริการในเส้นทางดังกล่าว โดยให้ทางสายการบินนกแอร์เดินหน้าไปก่อน ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้เร่งขับเคลื่อนให้สนามบินเบตงได้รับอนุญาตเป็นสนามบินที่ใช้บริการในเชิงพาณิชย์ที่เป็นท่าอากาศยานนานาชาติได้ และคาดว่าไม่เกินเดือน เม.ย.2564 จะสามารถเปิดใช้บริการได้อย่างเป็นทางการ
  • ก.พลังงาน ชะลอกำหนด E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานกลุ่มเบนซินไม่มีกำหนดจนกว่าระดับราคาเอทานอลจะอยู่ในระดับเหมาะสม ชี้ราคา 27-30 บาทต่อลิตร แพงไปเป็นภาระกองทุนน้ำมันฯต้องอุดหนุนเพิ่ม เล็งเคลียร์ให้ชัดผู้ผลิตเอทานอล ขณะที่ B20 ยกเลิกเพื่อลดภาระกองทุนฯ หรือไม่ต้องรอดูราคา B100 เช่นกัน ด้านผู้ผลิตเอทานอลพร้อมแจงต้นทุน ลั่นราคาพืชผลแพงก็ต้องแพงเป็นปกติ ย้ำภาระกองทุนฯที่แท้จริงคือการอุดหนุนแอลพีจี
  • ผู้ป่วยโควิด-19 ไทยตายเพิ่มอีก 2 คน ใน “สมุทรสาคร-อุบลราชธานี” เป็นผู้สูงวัย-มีโรคประจำตัว ส่วนยอดติดเชื้อรายใหม่ยังเป็นเลขสามหลัก อยู่ที่ 143 คน โดยเคสตลาดใน จ.ปทุมธานี เจอเพิ่มอีกจากการตรวจเชิงรุก ขณะที่ ศบค.เล็งขยายเวลากักตัวคนที่เดินทางมาจากแอฟริกา จาก 14 วัน เป็น 21 วัน หลังพบชายไทยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้คนแรก พบติดง่ายขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาแน่ “อนุทิน” ยันของซิโนแวคจากจีน ผลิตเสร็จปุ๊ป 2 แสนโดสแรก ส่งมาไทยทันที ด้าน อย.มั่นใจ ขึ้นทะเบียนทันก่อนใช้

หุ้นเด่นวันนี้

  • CHG (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 3 บาท คาดกำไร Q4/63 โตแรง qoq เพราะไม่มีการกลับรายการจากประกันสังคม มีรายได้จาก ASQ มากขึ้น ระยะสั้นยังมี Story เก็งกำไรจากภาครัฐเตรียมให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าวัคซีนได้
  • PTTGC (คันทรี่ กรุ๊ป) “ซื้อ”เป้า 75 บาท กำไรฟื้นตัวเด่นหนุนจาก spread ปิโตรเคมี โดยรายงานกำไรสุทธิ Q4/63 ที่ 6.4 พันล้านบาท (1,613%YoY, 605%QoQ) เมื่อหักกำไรสต๊อกและอัตราแลกเปลี่ยน กำไรหลักอยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท (พลิกจากขาดทุน YoY, 518%QoQ) กำไรหลักใน Q4/63 ฟื้นตัวแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ จากการฟื้นตัวของ spread ปิโตรเคมีเป็นหลัก โดยเฉพาะในสายโอเลฟินส์ รวมไปถึงปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจอะโรเมติกส์ ด้านกำไรสุทธิปี 63 อยู่ที่ 200 ล้านบาท (-98%) เมื่อหักขาดทุนสต๊อก กำไรหลักจะอยู่ที่ราว 7.3 พันล้านบาท (-14%) ซึ่งถูกกดดันจากค่าการกลั่น และอัตรากำไรในธุรกิจโอเลฟินส์ที่ลดลง พร้อมคาดกำไรหลักใน Q1/64 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากการฟื้นตัวของ spread ปิโตรเคมี และกำลังการผลิตใหม่
  • TOP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร”เป้า 64 บาท รายงานผลประกอบการ Q4/63 มีกำไรสุทธิ 7.3 พันล้านบาท +266% YoY, +915% QoQ ดีกว่าคาด แต่หลักๆ มาจากรายการพิเศษ ทั้งกำไรสต๊อกฯ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และกำไรจากการขายเงินลงทุนใน GPSC โดยผลการดำเนินงานหลักยังคงขาดทุน 1.5 พันล้านบาท แต่ดีขึ้น QoQ จาก Crude Premium ที่ลดลง และ Spread ผลิตภัณฑ์อะโรมาติกส์ที่ปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการใช้ของผู้ผลิตปลายน้ำ แนวโน้ม Q1/64 คาดผลการดำเนินงานหลักยังขาดทุนจาก Crude Premium ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะได้แรงหนุนกำไรสต๊อกฯ จากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.พ. 64)

Tags: , ,
Back to Top