หุ้นไทยปิดร่วง 11.80 จุด ไร้ปัจจัยขับเคลื่อน-วิตกโควิดระบาดหนักกระทบการฟื้นตัวศก.

  • ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.21 จุด ลดลง 11.80 จุด (-0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 93,330.76 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนทั้งบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,587.95 จุด และระดับต่ำสุด 1,564.83 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 426 หลักทรัพย์ ลดลง 365 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 1,259 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดกระโดดขึ้นไปในช่วงเช้าก่อนถอยลงมาในลักษณะซึมตัว หลังจากวานนี้ตลาดบ้านเราแข็งกว่าตลาดภูมิภาค แต่เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยขับเคลื่อนเข้ามา ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงถึงกว่า 1,400 รายต่อวัน และการเสียชีวิตก็เร่งตัวขึ้นด้วย ทำให้วิตกถึงการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ซึ่งมีสัญญาณว่าหน่วยงานภาครัฐฯจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลง

“รอบนี้ตลาดดึงขึ้นมาแถว 1,580 จุด มาเข้าใกล้ 1,600 จุด รอบนี้โควิดไม่จบเร็วทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาก่อน แล้วก็มารอดูสถานการณ์โควิดจะคุมอยู่ไหม…ตลาดบ้านเรารีบาวด์ขึ้นมาเร็ว จึงทำให้เห็นการ take profit ในช่วงสั้นๆ”

ทั้งนี้ ตลาดฯได้รับแรงถ่วงจากหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันปรับฐาน หลังจากวิตก Demand น้ำมันจะลดลง เนื่องจากอินเดียที่เป็นผู้บริโภคน้ำมันอันดับ 3 ของโลกเจอกับปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างหนักในขณะนี้ และสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯก็เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่หุ้นขนาดเล็กยังมีแรงเก็งกำไรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.4% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกเฉลี่ย 0.5% แต่มองเป็นการรีบาวด์หลังปรับตัวลงไปเมื่อวานนี้

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในคืนนี้ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการ ทั้งของสหรัฐฯและยุโรป ที่จะทยอยประกาศออกมา ส่วนบ้านเราติดตามตัวเลขการส่งออกที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้

ด้านนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายปรับตัวลง สวนทางตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดยุโรปต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก ทั้งนี้ตลาดบ้านเราได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ต่างปรับตัวลง ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กยัง outperform โดยยังคงวิตกการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งออกด้านข้าง และมีโอกาสที่จะซึมลงได้อีกเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,585 จุด

ส่วนนายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว พร้อมให้แนวรับที่ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 3,794.48 ล้านบาท ปิดที่ 83.50 บาท ลดลง 4.75 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,735.57 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
  • STA มูลค่าการซื้อขาย 3,296.65 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
  • SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,799.72 ล้านบาท ปิดที่ 430.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,737.29 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top