เงินบาทเปิด 31.31 ต่อดอลล์ อ่อนค่าจากวานนี้หลังดอลล์แข็งรับเงินเฟ้อพุ่งหนุนเฟดขึ้นดบ.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.31 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.19 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

“บาทกลับมาอ่อนค่าจากเย็นวานนี้มาก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เยอะ”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.20 – 31.40 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (12 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.33687% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.35641%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2081 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2131 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.217 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟู (ซอฟต์โลน) โครงการ 2 ที่ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย และตรงกับความต้องการมากกว่าสินเชื่อโครงการแรก และได้เปิดให้สถาบันการเงินเข้ามาขอรับสินเชื่อเพื่อปล่อยกู้ต่อให้กับเอสเอ็มอีเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง พบว่า ณ วันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา มียอดการปล่อยสินเชื่อ 6,212 ล้านบาท เร่งตัวขึ้นจากสัปดาห์แรกที่มีการปล่อยสินเชื่อไป 507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,705 ล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีขนาดกลาง หรือมีสินเชื่อเดิมที่ 5-50 ล้านบาท คิดเป็น 50%
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบถึงเป้าหมายการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในปีนี้ หลังจากผ่านสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ไปแล้ว โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 เริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.นี้ จะดึงต่างชาติมาไทยให้ได้ 1.29 แสนคน ผ่านการทำภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ หรือการทำพื้นที่ทดลองให้ต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โด๊ส และมีผลการตรวจว่าไม่ติดเชื้อโควิด สามารถเดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ 7 วัน โดยที่ไม่ต้องมีการกักตัว
  • รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบโควิด-19 ระลอกที่ 3 มีแนวโน้มจะส่งผลให้เอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว บริการ ร้านอาหาร และที่เน้นตลาดในประเทศ กลายเป็นผู้ป่วยหนักมากขึ้นเนื่องจากขาดรายได้ในการประคองธุรกิจ ทำให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องมีสูงและในทางปฏิบัติบางส่วน ยังไม่อาจเข้าถึงแหล่งเงินทุน แม้ว่าล่าสุดรัฐบาลจะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้รัฐบาลจะต้องหามาตรการอัดฉีดสภาพคล่องโดยเร่งด่วน
  • ธนาคารออมสิน กำหนดมาตรการพักชำระเงินต้น-ชำระเฉพาะ ดอกเบี้ย ให้ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SMEs ทั้งที่กู้ในนามบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สามารถแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการได้ตาม ความสมัครใจ เช่นเดียวกับลูกค้ารายย่อย ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนของผู้ที่ต้อง ขาดรายได้หรือรายได้ลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 4.2% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%

นักลงทุนกังวลว่า ตัวเลข CPI ที่พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะทำให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน

  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสูงกว่าคาดการณ์นั้น จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top