ดีมานด์น้ำมันอินเดียเดือนพ.ค.ครึ่งแรกร่วง 20% เหตุโควิดยังระบาดหนัก

ความต้องการน้ำมันของอินเดียปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งแรกของเดือนพ.ค. เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จัดว่าอยู่ในระดับย่ำแย่ที่สุดของโลก

ข้อมูลเบื้องต้นจากผู้ค้าปลีก 3 รายใหญ่ที่สุดของอินเดียระบุว่า ยอดขายเชื้อเพลิงสำหรับการเดินทางบนท้องถนนในช่วงวันที่ 1-15 พ.ค.ปรับตัวลดลง 20% จากเดือนก่อนหน้า และลดลงประมาณ 28% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562

ยอดขายน้ำมันเบนซิน ซึ่งใช้สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ปรับตัวลดลงแตะระดับ 53,300 ตัน/วัน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบปี ส่วนยอดขายน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้มากที่สุดของประเทศและเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจ ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 147,300 ตัน/วัน ในช่วงวันที่ 1-15 พ.ค.

การบริโภคน้ำมันที่ลดลงของอินเดียซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเกี่ยวกับราคาน้ำมัน และสร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังที่ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อน โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2564 เนื่องด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดีย ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตรนั้นได้มีการแสดงความเห็นในเชิงระมัดระวังไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้

ปัจจุบัน อินเดียกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังกระจายตัวอย่างรวดเร็วจากใจกลางเมืองไปยังพื้นที่ชนบท ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 70% จากประชากรทั้งหมด 1.3 พันล้านคน

ทั้งนี้ คำสั่งให้อยู่ภายในบ้านที่เข้มงวดทำให้การเดินทางของประชาชนถูกจำกัด ยอดขายน้ำมันลดลง และควบคุมการแปรรูปน้ำมันดิบของโรงกลั่นเพื่อจัดการสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top