สภาสหรัฐผ่านกม.ต้านการเหยียดชาวมะกันเชื้อสายเอเชีย คาดไบเดนลงนามพรุ่งนี้

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อวานนี้ และได้ยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองต่อไป

ร่างกฎหมายต่อต้านการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19 Hate Crimes Act) ได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียง 364 ต่อ 62 เสียง โดยสมาชิกผู้ลงคะแนนเสียงคัดค้านทั้งหมดเป็นสมาชิกจากพรรคริพับลิกัน ในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 94 ต่อ 1 เสียงเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีวุฒิสมาชิกจอช ฮอว์ลีย์ ผู้แทนจากรัฐมิสซูรีและสมาชิกพรรคริพับลิกันเป็นผู้ลงคะแนนเสียงคัดค้านเพียงรายเดียว ทั้งนี้คาดว่าปธน.ไบเดนจะลงนามรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวภายในวันที่ 20 พ.ค.นี้

นางจูดี้ ชู สส.รัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรคเดโมแครตและประธานการประชุมรัฐสภาว่าด้วยชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียแปซิฟิก (Congressional Asian Pacific American Caucus) กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนการลงคะแนนเสียงว่า “หลังจากชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียได้ร้องขอความช่วยเหลือมาเป็นเวลา 1 ปี ในวันนี้สภาคองเกรสจะลงคะแนนเสียงครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อผ่านร่างกฎหมายต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียหลังจากล่าช้ามานาน และยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวต่อปธน.ไบเดนเพื่อลงนามรับรอง”

ด้านนางเกรซ เหมิง สส.พรรคเดโมแครตซึ่งเป็นผู้ร่างกฎหมายดังกล่าวร่วมกับวุฒิสมาชิกเมซี ไฮโรโนแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า “ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาเราได้ประสบกับความเจ็บปวดและความยากลำบากมากมาย จากอาชญากรรมจากความเกลียดชังและความรุนแรงต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย”

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานในกระทรวงยุติธรรม เพื่อเร่งการพิจารณาคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ ร่างกฎหมายนี้จะมอบงบประมาณให้รัฐต่างๆ จัดตั้งสายด่วนสำหรับการรายงานอาชญากรรมจากความเกลียดชัง และจัดการฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อป้องกันและทำความเข้าใจอาชญากรรมจากความเกลียดชัง รวมถึงกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องร่วมมือกับองค์กรในท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่ความตระหนักรู้เรื่องอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top