หุ้นไทยปิดลบ 7.70 จุด เจอแรงขายกลุ่มพลังงานหลังเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐ-โควิดยังถ่วง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,554.54 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 90,007.36 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งทรงตัวคล้ายต่างประเทศ หลังมีสัญญาณสหรัฐปรับลด QE อันเป็นผลจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ส่วนบ้านเราหลังประกาศงบฯไปแล้วก็ไร้ปัจจัยใหม่ ขณะที่สถานการณ์โควิดยังถ่วง-ต่างชาติขายต่อเนื่อง-เงินเฟ้อสหรัฐฯสูงทำให้มีแรงขาย Commodity บ้านเราก็เผชิญแรงขายกลุ่มพลังงานกดดัน แต่ยังมีแรงเก็งหุ้นเล็ก-หุ้นรายตัว พรุ่งนี้ตลาดฯคงแกว่งคล้ายวันนี้ ให้แนวรับ 1,550 แนวต้าน 1,570 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,554.54 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 90,007.36 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,568.72 จุด และระดับต่ำสุด 1,554.54 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 515 หลักทรัพย์ ลดลง 1,077 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 517 หลักทรัพย์

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งทรงตัว คล้ายคลึงกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งทรงตัว ส่วนตลาดยุโรปบวกได้เล็กน้อย หลังจากที่มีสัญญาณสหรัฐอาจปรับลดการทำ QE หลังกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หารือเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเสนอให้เริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมวันข้างหน้า ทำให้ทุกประเทศขณะนี้ต่างรอดูปัจจัยบวกใหม่

ส่วนบ้านเราหลังจากบริษัทจดทะเบียนเสร็จสิ้นการรายงานผลประกอบการไปแล้วก็ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นการลงทุน ขณะเดียวกันสถานการณ์โควิดในประเทศก็ยังถ่วงอยู่ ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง และด้วยปัจจัยความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อสหรัฐฯทำให้เกิดแรงขายสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ด้วย ซึ่งบ้านเราจึงเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กและหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว ระหว่างรอปัจจัยใหม่เข้ามาผลักดัน

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งทรงตัวคล้ายกับวันนี้ ในช่วงรอปัจจัยบวกใหม่ และยังรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 3,388.55 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,010.80 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ลดลง 0.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,441.13 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

STGT มูลค่าการซื้อขาย 2,036.78 ล้านบาท ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,830.38 ล้านบาท ปิดที่ 116.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top