พปชร.แจงเหตุขับส.ส.กลุ่มธรรมนัสพ้นพรรรค เชื่อแก้ขัดแย้งหนุนมีเอกภาพดีขึ้น

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวานนี้ได้มีมติให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อม ส.ส.ในกลุ่มรวม 21 คน พ้นจากพรรคว่า เพื่อรักษาสมาชิกพรรคส่วนใหญ่อีกประมาณ 100 ราย เป็นหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคต่อไป เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส ได้เรียกร้องเรื่องที่พรรคไม่สามารถดำเนินการให้ได้ คือ ปรับโครงสร้างพรรคใหม่ ทั้งกรรมการบริหารพรรค และทุกๆ ส่วน ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ถ้าพรรคไม่ปรับโครงสร้าง จะเคลื่อนไหวด้วยมาตรการต่างๆ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคทั้งหมด รวมถึงเกิดความแตกแยกในทั้งพรรค

โดยที่ประชุมพรรคเห็นว่าไม่สามารถดำเนินการตามที่ ร.อ.ธรรมนัส ต้องการได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาหลักการของพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นร่วมกันว่า รับไม่ได้ และเป็นเหตุร้ายแรงที่กระทบเสถียรภาพ จึงมีมติให้กลุ่มผู้เรียกร้องทั้ง 21 คน พ้นจากพรรค เพื่อรักษาสมาชิกพรรคส่วนใหญ่อีกประมาณ 100 ราย เป็นหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคต่อไป

สำหรับที่ประชุมมีผู้ร่วมประชุมรวมทั้งหมด 78 คน แบ่งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค 17 คน ร่วมกับสมาชิกผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐอีก 61 คน โดยที่ประชุมร่วมมีมติเห็นชอบให้สมาชิก 21 คนที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 63 เสียง ซึ่งเกิน 3 ใน 4 ของผู้เข้าร่วมประชุม หรือเกิน 59 คน

สำหรับขั้นตอนต่อไป พรรคจะดำเนินการจัดเตรียมเอกสารส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยที่ทั้ง 21 คน ยังถือเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรอยู่ แต่ต้องหาพรรคใหม่ให้ได้ภายใน 30 วัน

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ กล่าวเน้นย้ำว่า การดำเนินการในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการขับออกจากพรรค แต่มีมติให้พ้นจากพรรค ทั้งหมดเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งพยายามแก้ไขแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ได้ โดยการที่มีมติในครั้งนี้ จะเป็นการแก้ไขภาพลักษณ์ของพรรค ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหา ให้จบไปอย่างแน่นอน และจะไม่เกิดปัญหานี้อีกแล้ว เพราะพรรคจะเกิดเอกภาพ

“ผมมั่นใจในสปริตของสมาชิก 100 กว่าท่าน จำนวนคนไม่สำคัญเท่ากับความขัดแย้ง การมีมติพ้นออกจากพรรคครั้งนี้ผมเห็นว่าเป็นความรู้สึกร่วมของทั้งสองฝ่าย ครั้งนี้ไม่เรียกว่าเป็นจุดแตกหักซะทีเดียว แต่ถือเป็นจุดเปลี่ยน ซึ่งการแก้ไขครั้งนี้เป็นประโยชน์กับพรรค ในเรื่องความขัดแย้ง จุดยืน และจะมีความเป็นเอกภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง และเป็นสถาบันอย่างแท้จริง” นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นขั้นตอนของวิวัฒนาการของพรรค ซึ่งเป็นธรรมดาของพรรคการเมืองที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นไปในทางที่ดี ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการในครั้งนี้ และมีความมั่นคงอยู่แล้ว รวมถึงประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับยุบสภา และ 21 เสียงที่หายไปจะไม่มีผลให้เกิดสภาล่มแน่นอน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top