สภาล่ม ครั้งที่ 17 หลังเพื่อไทยเสนอนับองค์ประชุม, ชวน ห่วงภาพพจน์สภาเสียหาย

รายงานข่าว แจ้งว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมตั้งแต่เริ่มเปิดประชุม และพิจารณาในวาระสำคัญ คือ กระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไปแล้วเสร็จ ซึ่งการประชุมได้ดำเนินมาเป็นปกติ จนมาถึงวาระพิจารณาเรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม และพิจารณารับทราบประกาศคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเรื่อง นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 แล้วเสร็จได้มี ส.ส.เสนอนับองค์ประชุม

โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขอตรวจสอบองค์ประชุม เนื่องจากสงสัยว่าสมาชิกอยู่ครบองค์ประชุมหรือไม่ ทำให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต้องเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ

ทั้งนี้ ประธานสภาฯ ได้สอบถามว่าผู้ควบคุมเสียงจะคุยกันก่อนหรือไม่ เพราะวาระพิจารณารายงาน ไม่ต้องลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากนั้นได้สอบถามผู้เสนอให้นับองค์ประชุมว่าจะยืนยันตามเดิมหรือไม่ ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าให้ดำเนินการ

ก่อนตรวจสอบองค์ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พยายามลุกโต้แย้งว่า การเสนอให้นับองค์ประชุมระหว่างพิจารณารายงานหรือกรณีไม่ได้ลงมตินั้น ขัดข้อบังคับและไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) สอบถามว่า การขอนับองค์ประชุมถือว่าเป็นญัตติหรือไม่ และการเสนอนับองค์ประชุมเพื่อป่วนสภา ถือว่าทำลายความมั่นคงของรัฐสภา ผิดรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมาอาญามาตรา 157 ระหว่างนั้นนายพิเชษฐ์ พูดแทรกเพราะต้องการประท้วง ทำให้นายนิโรธ ถึงกับต้องถามหามารยาท และจริยธรรมในสภาฯ

“เอาแบบมีมารยาทหน่อยในสภาฯ อย่าจริยธรรมตกต่ำให้มากนัก” นายนิโรธ กล่าว

จากนั้น นายชวน ได้วินิจฉัยว่าการเสนอนับองค์ประชุม เป็นสิทธิของสมาชิกที่จะทำได้ และประธานต้องดำเนินการตาม ทั้งนี้มี ส.ส.ที่ไม่สนับสนุน เพราะมองว่าฝ่ายค้าน และรัฐบาลต่างเล่นแง่ทางการเมือง และเสนอให้ผู้เสนอให้นับองค์ประชุมถอนเรื่อง

นายชวน ชี้แจงว่า เมื่อมีผู้เสนอให้นับองค์ประชุม และมีการเสนอญัตติต้องตรวจสอบองค์ประชุม หากองค์ประชุมครบ ก็ขอมติได้ หากไม่ครบจะขอมติไม่ได้ เป็นไปตามเกณฑ์ ที่ผ่านมาไม่มีปัญหา เพราะใช้สิทธิบางอย่างฟุ่มเฟื่อย งานเดินหน้าได้ แต่เมื่อ ส.ส.เสนอ ประธานฯ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

“ผมให้เวลา เพราะขณะนี้มีตัวเลขใกล้เคียงองค์ประชุมแล้ว วันนี้สมาชิกวางใจ ไม่มีมติ เพราะเป็นเรื่องแจ้งเพื่อทราบของหน่วยงาน ที่ตกลงว่าจะผ่านให้ 10 เรื่อง และมีผู้ชี้แจงรอ ผมเคยเตือนว่าเวลามีค่า อกเขาอกเรา เมื่อมารอ แต่ไม่ได้พิจารณา เสียเวลามาก แต่เมื่อมีคนเสนอนับองค์ประชุม จะด้วยเจตนาอะไร ก็พอเข้าใจได้ หากใช้สิทธิพร่ำเพรื่อเกินไป ก็เสียหายต่อภาพพจน์ของสภา”

นายชวน กล่าว

หลังจากที่นายชวนชี้แจงแล้ว ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้ว่า การตรวจสอบของฝ่ายค้าน เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเดินหน้าตามกลไก และตามระบอบประชาธิปไตย วันนี้ หน้าที่ของเสียงข้างมากที่จะสามารถรักษาองค์ประชุมของสภาฯ ได้ ไม่ประสงค์ให้สภาฯ ล่ม แต่อยากให้ทำงานได้ครบ เพื่อพิจารณารายงาน และขอให้ขานคะแนน

ทำให้นายชวน กล่าวว่า “ไม่อยากให้งานของเราล้มเหลว ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง สิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองต้องทำ”

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยพาดพิงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะสภาฯ เสียงข้างมาก ไม่รับฟังความเห็น เป็นเผด็จการรรัฐสภา ไม่ได้จ้องเพื่อทำให้สภาล่ม หรือทำให้เสียหาย บรรยากาศสภาฯ แบบเสียงข้างมากลากไป ไม่ฟังเสียงข้างน้อย ประชาชนรู้สึกได้ และกรณีนับองค์ประชุมเป็นบทบัญญัติ 120 จำนวนองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่ง วิธีนับเป็นของสภาฯ มาตรการของฝ่ายค้านที่ทำในอดีตได้คำนึงถึงความสำคัญต่อเรื่องที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ไม่ทำพร่ำเพรื่อ

หลังจากใช้เวลารอเกือบ 30 นาที นายชวนได้สั่งปิดการแสดงตน ปรากฎว่ามีผู้ที่กดบัตรแสดงตน 227 คน ไม่ครบองค์ประชุม จึงได้สั่งปิดการประชุม ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมล่มครั้งที่ 17

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 65)

Tags: , ,
Back to Top