ส.อ.ท.แนะรัฐสนับสนุนนโยบายศก.ต่อเนื่อง ยกระดับเป้าหมายสู่ผู้นำภาคอุตสาหกรรม

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงอนาคตภาคอุตสาหกรรมไทยหัวข้อ FUTURE INDUSTRY ในงานประชุมสามัญประจำปี 65 ว่า เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทิศทางของประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตาม ภายใต้อุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ไทยมีความได้เปรียบเป็นทุนเดิม เราจึงควรมุ่งเน้นผลักดันและส่งเสริมในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ได้แก่

– การผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านผลผลิตการเกษตรและอาหาร ควรเริ่มจากการช่วยให้ต้นทุนของเกษตรกรต่ำลงก่อน หากต้นทุนต่ำลงจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น วัตถุดิบที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มีราคาต่ำ จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีต้นทุนที่ต่ำลงไปด้วย ทั้งนี้ไทยก็ควรจะปรับตัวเองให้เข้าสู่ Future Food เพื่อเปลี่ยนการเกษตรแบบดั้งเดิม เป็นการเกษตรสมัยใหม่ที่เน้นการบริหารจัดการและใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ผลิตได้อย่างแม่นยำ โดยใช้ทรัพยากรที่ประหยัด สร้างรายได้มากขึ้นด้วย

  • BCG (Bio-Circular-Green Economy) ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทย เน้นเศรษฐกิจที่นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาต่อยอดจุดแข็งของธุรกิจไทย นั่นคือ การนำคุณค่าจากความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมมาแปลง หรือเพิ่มเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นการนำผลผลิตทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ มาปรับเปลี่ยนระบบการผลิตและการบริโภคที่นำไปสู่กระบวนการที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อรักษาความสมดุลและตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ความยั่งยืน ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การผลิตที่ต้องเป็น zero waste ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยสภาอุตสาหกรรมฯ ตอบสนองยุทธศาสตร์ดังกล่าว ด้วยการจัดตั้งสถาบัน carbon credit ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย สู่การใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เป็นอีกหนึ่งกำลังที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย
  • Health and Lifestyle สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ผลงานของระบบสาธารณสุขไทยในการรับมือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าประเทศไทยยังมีจุดแข็งในเรื่องการให้บริการด้านสุขภาพ เครื่องมือแพทย์ รวมไปถึง อุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนการจัดทำสินค้าประเภท Lifestyle คนไทยถือว่ามีฝีมือที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ยังขาดเรื่องการทำให้แบรนด์สินค้าติดตลาด หากสามารถสร้างแบรนด์ให้ตรงจุด ก็สามารถดันแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลกได้
  • Tourism and Services ศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่มีภูมิประเทศที่สวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย มีชื่อเสียงด้านบริการ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวที่เป็นมาตรฐานระดับโลกอยู่มากมาย เป็นจุดแข็งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ไทยให้มีความแข็งแกร่งในเวทีโลก จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ต่างชาติที่มีรูปแบบการทำงานแบบ Workcation เข้ามาทำงานและพักผ่อนไปด้วยในประเทศไทยมากขึ้น ก่อให้เกิดการใช้จ่าย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
  • การเพิ่มประสิทธิภาพในด้าน Technology Innovation Infrastructure และการสนับสนุนจากภาครัฐ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยได้

Technology ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมภาคอุตสาหกรรมไทยสู่โครงสร้างพื้นฐาน 5G จะเร่งให้เกิดการนำแอปพลิเคชั่นและบริการ IoT มาใช้ทั่วทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศทั้งภาคเศรษฐกิจได้

Innovation การจะก้าวไปเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอนาคตนั้น จำเป็นต้องปรับมาขับเคลื่อนประเทศบนฐานนวัตกรรม เร่งพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมผ่านการเชื่อมโยงภาคเอกชน ภาครัฐ การศึกษา และสังคม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อสร้างระบบนวัตกรรมที่เข้มแข็งจากพื้นฐาน ส.อ.ท.ได้มีการขับเคลื่อนกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม ภายใต้การดำเนินการของมูลนิธิกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการแข่งขันของ SMEs ไทยอย่างยั่งยืน โดยการระดมทุนจากภาคเอกชนรายใหญ่ที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมเพื่อหนุน SMEs ให้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เอง

Infrastructure ระบบขนส่งโครงสร้างพื้นฐานของไทย ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ ซึ่งต้นทุนทางโลจิสติกส์ของประเทศไทยทุกวันนี้ค่อนข้างสูง หากสามารถพัฒนาระบบขนส่งโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวให้ครอบคลุม จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้มาก

การสนับสนุนจากภาครัฐ นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องต่อเนื่อง ภาคเอกชนควรได้เข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น เพิ่มความอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ การใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการปราบปรามคอร์รัปชั่น

“ภาครัฐควรมาสอบถามแนวทางการพัฒนาด้านเศรษฐกิจจากเรา เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง ไม่ใช่ตอบโจทย์ทางการเมืองเป็นหลัก ทุกวันนี้มีจำนวนข้าราชการมากเกินไป รายได้น้อย ต้องปฏิรูปให้มีจำนวนเท่าที่จำเป็น บางเรื่องก็ให้เอกชนไปทำแทนได้ จะได้ลดทุจริต” นายสุพันธุ์ กล่าว

สำหรับอนาคตภาคอุตสาหกรรมไทย ไม่ใช่แค่การตามกระแสโลกเพียงเท่านั้น แต่ต้องเป็นผู้นำภาคอุตสาหกรรม ด้วยการผลักดันและสร้างคุณค่าจากสิ่งที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยอย่างแท้จริง ภาคอุตสาหกรรมไทยได้ก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงมามากมาย และคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อุตสาหกรรมไทยจะหันกลับมาส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศที่มีศักยภาพ และขับเคลื่อนให้เติบโตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมไทยให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง เพราะ Future Industry จะไม่ใช่อนาคตที่ไกลตัวอีกต่อไป

“ที่ผ่านมา เรามียอดส่งออกสินค้าบางตัวในลำดับต้นๆ ของโลก เช่น รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แต่เรามีไม่แบรนด์ของตัวเอง ยังไม่ใช่เจ้าของธุรกิจที่แท้จริง” นายสุพันธุ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top