ครม. ปรับปรุงมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนจากผลกระทบราคาพลังงาน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดในมาตรการเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน อันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป ดังนี้

1. การปรับปรุงถ้อยคำมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยการให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า FT) ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน จากเดิมที่ให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ปรับเป็นให้ส่วนลดอัตราค่า FT แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค. 65 ซึ่งจะทำให้มาตรการมีความชัดเจน และเป็นการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้า

2. มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมัน “กลุ่มเบนซิน” จากเดิมที่ให้ส่วนลดราคา “น้ำมันแก๊สโซฮอล์” แก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง) ที่มีใบอนุญาต ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 106,655 คน (จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการขนส่ง ณ วันที่ 22 มี.ค. 65) ในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน ในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. 65

ขณะเดียวกัน ให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ได้รับเงินจากโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน โดยภาครัฐจะมีภาระค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 79.992 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการช่วยเหลือค่าน้ำมัน ครอบคลุมทั้งน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และสามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคล่องตัวด้วย

สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ สามารถกดยืนยันสิทธิ์และเงื่อนไขผ่านแอปพลิเคชัน และจ่ายเงินโดยสแกน QR Code ณ สถานีบริการน้ำมัน ที่เข้าร่วมโครงการ ด้านสถานีบริการน้ำมันสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการผ่าน แอปพลิเคชันฝั่งผู้ขาย เพื่อสร้าง QR Code เพื่อรับชำระเงินจากผู้ใช้สิทธิ์ด้วย

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว มุ่งลดภาระค่าครองชีพของประชาชน จากการปรับขึ้นค่าโดยสารรถจักรยานยนต์สาธารณะ และลดค่าใช้จ่ายโดยการให้ส่วนลดอัตราค่า FT สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top