ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 1 ปี 2565 มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2564 (QoQ) โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบที่เพิ่มขึ้นทุกรายการ โดยเพิ่มขึ้นมากที่สุดในหมวดงานวิศวกรรมโครงสร้าง 12.0%
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ REIC กล่าวว่า ราคาวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 1/65 ปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาเหล็ก และผลิตภัณฑ์เหล็ก เพิ่มขึ้นมากถึงประมาณ 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลทำให้ราคาน้ำมัน และราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากประเทศยูเครนและรัสเซียเป็นแหล่งวัตถุดิบเหล็กแหล่งใหญ่ของโลก
โดยสินค้าเหล็กจากทั้งรัสเซียและยูเครน มีส่วนแบ่งตลาดราว 14% ของการส่งออกสินค้าเหล็กทั่วโลก และรัสเซียเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเหล็กมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีน และญี่ปุ่น ขณะที่ยูเครนเป็นประเทศส่งออกสินค้าเหล็กอันดับ 8 ของโลก การเกิดสงครามระหว่าง 2 ประเทศนี้จึงส่งผลต่อราคาสินค้าเหล็กเป็นอย่างมาก เพราะต้องสูญเสียแหล่งกำลังการผลิตเหล็กไป ทำให้สินค้าเหล็กขาดแคลน และปรับราคาสูงขึ้นในท้องตลาด
ส่วนหมวดแรงงานยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างในแต่ละหมวด พบว่า
1. หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
– งานวิศวกรรมโครงสร้าง มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 โดยมีสัดส่วน 28.9% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ
– งานสถาปัตยกรรม มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 โดยมีสัดส่วน 64.5% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ
– งานระบบสุขาภิบาล มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 โดยมีสัดส่วน 2.9% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ
– งานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 โดยมีสัดส่วน 3.7% ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ
2. หมวดวัสดุก่อสร้าง
– ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
– ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ราคาเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
– เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 18.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
– กระเบื้อง ราคาลดลง -3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ -3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
– สุขภัณฑ์ ราคาเพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
– อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ราคาเพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
– วัสดุก่อสร้างอื่นๆ ราคาเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64
3. หมวดแรงงาน ค่าแรงงานไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 เม.ย. 65)
Tags: REIC, ก่อสร้าง, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, วัสดุก่อสร้าง, วิชัย วิรัตกพันธ์, ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์, อสังหาริมทรัพย์, เหล็ก