หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนอิงทางลงตามตปท.หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งผันผวนอิงทางลง ตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ที่ 8.3% จากคาด 8.1% ส่งผลให้นักลงทุนกังวลเฟดคใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น จากเดิมคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.5% ในเดือนมิ.ย.-ก.ค. เปลี่ยนเป็น 3 ครั้ง โดยเพิ่มเดือนก.ย.เข้าไป อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากเงินเฟ้อสูง ก็กดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามคาดตลาดฯ น่าจะลงไม่มาก จากได้หุ้นกลุ่มพลังงานประคองตลาดเอาไว้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,590-1,600 จุด และแนวต้าน 1,625-1,630 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวผันผวนอิงทางลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐได้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524 ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้นโยบายการเงินที่เข้งวดมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.5% ในเดือนมิ.ย.และก.ค. เปลี่ยนเป็น 3 ครั้ง โดยเพิ่มเดือนก.ย.เข้ามา

ทั้งนี้จากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นกว่าคาดก็ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดทะลุ 34.6 บาท/ดอลลาร์ ไปแล้ว ซึ่งอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยน่าจะลงไปไม่มาก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดีดกลับขึ้นไป 6% จากยูเครนระงับการขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป ซึ่งน่าจะหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันบ้านเราให้ปรับตัวขึ้นได้ และช่วยประคองตลาดเอาไว้

ให้แนวรับไว้ที่ 1,590-1,600 จุด และแนวต้าน 1,625-1,630 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,834.11 จุด ร่วงลง 326.63 จุด หรือ -1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,935.18 จุด ลดลง 65.87 จุด หรือ -1.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,364.24 จุด ร่วงลง 373.44 จุด หรือ -3.18%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,945.04 จุด ลดลง 268.6 จุด หรือ -1.02% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,556.89 จุด ลดลง 267.68 จุด หรือ -1.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,044.80 จุด ลดลง 13.9 จุด หรือ -0.45%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 พ.ค.) ที่ระดับ 1,613.34 จุด ลดลง 9.44 จุด, -0.58%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,186.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(11 พ.ค.) พุ่งขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 พ.ค.) อยู่ที่ 21.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.71 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดกังวลเฟดเร่งขึ้นดบ.หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
  • คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเตรียมแผนมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 เข้าสู่ “โรคประจำถิ่น” จ่อยกเลิก Thailand Pass เพิ่มมาตรการสอบสวนโรคอย่างละเอียดกรณีกลุ่มฉีดวัคซีนครบ 3 โดสแต่เสียชีวิตจากโควิด อย.อนุมัติวัคซีนโควิด 2 ตัวใช้ในอายุ 12-17 ปี และ 6-11 ปี ขณะที่ อภ.ผลิตโมลนูพิราเวียร์ได้เองทำให้มีต้นทุนต่ำลง
  • นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือน พ.ค. ว่า กกร.ได้สรุป 9 มาตรการที่ต้องการเสนอรัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อดูแลเศรษฐกิจ และประคองเศรษฐกิจ รักษาขีดความสามารถในแข่งขันของเอสเอ็มอี และดูแลประชาชน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้านส่งผลต่อต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงสุดในรอบ 10 ปี
  • “แอร์บัส” มั่นใจไทยเปิดประเทศจะช่วยให้การท่องเที่ยว-อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว ช่วยรองรับตำแหน่งงานถึง 4.3 ล้านตำแหน่ง ลั่นแผนร่วมทุน MRO ระงับชั่วคราว
  • “บิ๊กป้อม” การันตี “บิ๊กตู่” ไม่สะดุดปมนั่งนายกฯ 8 ปี เผยยื่นบัญชีทรัพย์สิน หลัง รธน.ใหม่กำหนดแล้ว ยันไม่ได้ครอบงำ สั่ง’ธรรมนัส’ ห้ามดินเนอร์ พท. “โจ้” ยันยังไม่ยกเลิก ซัด “ลุงป้อม” เกี่ยวอะไรกับพรรคเศรษฐกิจไทย ระวังเจอร้องยุบ พปชร. แต่ถ้าอยากมาร่วมโต๊ะด้วยก็ยินดี ด้าน พปชร. หวด “พิเชษฐ” ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค รวมหัวฝ่ายค้าน-ทักษิณ ซักฟอกรัฐบาล สั่งตัดสิทธินั่ง กมธ.-ดีดพ้นไลน์กลุ่ม-ห้ามใช้โลโกพรรค-ห้องประชุมพรรค 6 เดือน

หุ้นเด่นวันนี้

  • KCE (เอเชียเวลท์) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 80 บาท มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65-ไตรมาส 3/65 จากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น สงครามรัสเซีย-ยูเครนและการล็อกดาวน์ในจีนส่งผลกระทบต่อ KCE จำกัด คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 เติบโต 15%YoY กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 เติบโต 17%YoY แต่ลดลง 16%QoQ
  • TOP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 63 บาท ประกาศงบไตรมาส 1/65 In line กับที่เราคาดไว้มีกำไรสุทธิ 7.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 43%qoq และ 114%yoy ล่าสุดมีข่าวดีหลังกลุ่มผู้ขายน้ำมันในตะวันออกกลางนำโดยซาอุฯ ประกาศลดราคาขายน้ำมัน (Crude premium) เดือน มิ.ย. ลง 4.9-5.5$/bbl เป็นบวกกับกลุ่มโรงกลั่น
  • CPN (โกลเบล็ก)”ซื้อเมื่ออ่อนตัว” Bloomberg Consensus 66.25 บาท ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากการเปิด
    โครงการต่อเนื่องหนุนรายได้มีศักยภาพเติบโตเนื่องปี 65 เปิดบริการสาขาจันทบุรี (26 พ.ค.) ปี 66 เปิดบริการใหม่สาขาราชพฤกษ์ คาดผลการดำเนินงานในช่วง 2H65 ฟื้นตัวดีชัดเจน Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 8,888 ล้านบาท +24%YoY ราคาปัจจุบันเหลือ upside ไม่มาก ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 39 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 22 เท่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top