BANPU คาดราคาถ่านหิน-ก๊าซสูงหนุน Q2/65 โตต่อ, จ่อปรับเป้าหลังซื้อ XTO Barnett Shale Gas

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า บริษัทมองแนวโน้มราคาถ่านหินในไตรมาส 2/65 ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง หรือเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากไตรมาส 1/65 อยู่ที่ระดับ 397.82 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากปัญหาความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครน นโยบายห้ามการส่งออกถ่านหินของรัฐบาลอินโดนีเซีย ส่งผลให้ซัพพลายในตลาดมีจำกัด สวนทางกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ราคาก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อนื่อง จากปริมาณสำรองก๊าซยังอยู่ในระดับต่ำที่สุดในค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง จากการตึงตัวของซัพพลาย และการเข้าสู่ในช่วงฤดูหนาวทำให้ราคาก๊าซปรับสูงขึ้นอีกในครึ่งปีหลังนี้ และอาจต่อเนื่องไปในไตรมาส 1/66 จึงน่าจะยังส่งผลดีต่อบริษัทฯ

ในด้านกำลังการผลิตถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่กว่า 21.8 ล้านตัน และเหมืองออสเตรเลีย 10.6 ล้านตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตามความต้องการใช้ถ่านหินและราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นในไตรมาส 2/65 อีกทั้งคาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงตลอดช่วงครึ่งหลังปีนี้อีกด้วยจากปัจจัยภายนอกประเทศ ทั้งสงคราม ปัญหาเศรษฐกิจ ตลอดจนเงินเฟ้อ ที่ยังคงเป็นแรงกดดัน

ส่วนการขยายกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ล่าสุด BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BANPU ถือหุ้น 96.12% เข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในแหล่งก๊าซธรรมชาติและครอบคลุมถึงธุรกิจกลางน้ำบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ จากบริษัท XTO Energy, Inc. and Barnett Gathering LLC (XTO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Exxon Mobil Corporation มูลค่าลงทุน 750 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 25,125 ล้านบาท และมีมูลค่าผลประโยชน์แก่ผู้ขายในอนาคตโดยรวมไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นอยู่กับราคาก๊าซธรรมชาติในอนาคต คาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นภายในเดือน มิ.ย.65

บริษัทมองว่าการซื้อ XTO Barnett Shale Gas จะได้ประโยชน์สูงสุด จากทรัพย์สินของ XTO Barnett ตั้งอยู่ใกล้กับทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วในแหล่ง Barnett ของ BANPU จึงคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าจาก synergy กันได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีทั้งระบบขนส่งทางน้ำ รวมทั้งยังมีโอกาสบริหารเองและเป็นเจ้าของเองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้ผลการดำเนินงานของ XTO Barnett เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง หากดีลแล้วเสร็จในช่วงเดือน มิ.ย.65 และหลังจากนั้นจะมีการประกาศเป้าหมายกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) และความสามารถในการเพิ่มอัพไซด์จากแหล่งนี้ เนื่องจากจะมีปริมาณการผลิตก๊าซสุทธิเพิ่มขึ้น และจะเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในแหล่ง Barnett

นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและเปิดโอกาสในการศึกษาการลงทุนใหม่โครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้ามาสร้าง Synergy และความแข็งแกร่งให้กับ BANPU ในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top