CONSENSUS: โบรกฯเชียร์”ซื้อ”TTB เล็งผลงาน H2/65 โตต่อตามดีมานด์สินเชื่อ-NIM สูงขึ้น

โบรกเกอร์ต่างแนะนำ “ซื้อ” หุ้นธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 65 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น หนุนต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้งมีโอกาสเห็นการตั้งสำรองฯลดลง หลังครึ่งปีแรกตั้งไปมาก และแนวโน้ม NPL ทรงตัวหรือทยอยลดลงในครึ่งปีหลังนี้

ด้านสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเห็นการเติบโตได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าอาจจะแรงกดดันเกี่ยวกับดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้การขอสินเชื่อชะลอตัวลงไปบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อรายยย่อย แต่ยังเห็นแนวโน้มความต้องการใช้สินเชื่อที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มสินเชื่อภาคธุรกิจที่จะเริ่มเห็นการใช้สินเชื่อ เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ๆในครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยที่หนุนต่อการเติบโตของสินเชื่อได้ในครึ่งปีหลังนี้

ราคาหุ้น TTB ปิดเที่ยงที่ 1.19 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท (+1.71%) ขณะที่ดัชนี SET บวก 0.19%

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า TTB ยังคงเป็นธนาคารที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อรายย่อยอาจจะได้รับผลกระทบจากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถยนต์ ที่อาจจะมีการชะลอตัวไปบ้าง แต่ยังคงมีความต้องการสินเชื่อในกลุ่มดังกล่าวเข้ามา จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และคนกลับมาทำงานมีรายได้ ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน และรถยนต์ยังคงมีอยู่ รวมถึงกลุ่มสินเชื่อภาคธุรกิจที่คาดว่าจะเห็นการเบิกใช้สินเชื่อเพ อการลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้น หนุนการปรับตัวขึ้นของสินเชื่อในครึ่งปีหลังที่ยังเป็นบวกต่อได้จากไตรมาส 2/65

ขณะที่ส่วนต่างกำไรดอกเบี้ยในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก หลังจากเริ่มมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทำให้เป็นบวกต่อกำไรของธนาคาร และแนวโน้มของ NPL คาดว่าจะเห็นการทยอยปรับตัวลงมาบ้าง หลังจากลูกหนี้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้มากขึ้น แม้ว่าในไตรมาส 2/65 NPL ของ TTB จะยังเพิ่มขึ้นมาที่ 2.6% แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และไม่ส่งผลกระทบต่อการตั้งสำรองฯมาก และมองว่าการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังจะไม่เข้ามาเป็นปัจจัยกดดัน หลังจากธนาคารได้ตั้งสำรองฯเพิ่มเพื่อนรองรับสถานการณ์ไม่แน่นอนไปแล้วในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยที่ยังคงกำไรของ TTB ในปี 65 เติบโตเกือบ 14% และให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 1.60 บาท/หุ้น

นักวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ยังมองแนวโน้มของกำไร TTB ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยที่ได้รับปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ NIM เพิ่มขึ้นตาม รวมถึงแนวโน้มการตั้งสำรองฯในช่วงงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะลดลง หลังจากที่ครึ่งปีแรกมีการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคตไปแล้ว ทำให้แรงกดดันในการตั้งสำรองฯช่วงครึ่งปีหลังลดลง และทิศทางของ NPL ในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเห็นการมทรงตัวราว 2.5-2.6% จากครึ่งปีแรก

ด้านทิศทางของสินเชื่อคาดว่าจะยังเห็นการเติบโตขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แม้ว่าการเติบโตของสินเชื่อในช่วงในช่วงครึ่งหลังคาดว่าจะชะลอการเติบโตลงบ้าง จากการตัดสินใจในการกู้สินเชื่อที่ชะลอตัวลงบ้าง หลังอัตราดอกเบี้นยปรับเพิ่มขึ้น โดยพาะกลุ่มสินเชื่อรายย่อย แต่ยังคงเห็นความต้องการสินเชื่อที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาต่อเนื่อง รวมถึงภาคธุรกิจที่ยังคงมีการเริ่มลงทุนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยหนุนต่อการเติบโตของสินเชื่อในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเติบโตสินเชื่อทั้งปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2% และคงประมาณการกำไรของTTB ปี 65 โตกว่า 19% โดยยังให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้หามาย 1.40 บาท/หุ้น

บทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองแนวโน้มผลงานของ TTB ในช่วงครึ่งปีหลังยังเห็นการเติบโตขึ้นต่อจากครึ่งปีแรก โดยได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นหนุนต่อ NIM ที่สูงขึ้นตาม ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และมีปัจจัยหนุนต่อกำไรในส่วนของคุณภาพของลูกหนี้ที่ดีขึ้นตาม ทำให้ NPL เริ่มทรงตัว และมีโอกาสทยอยปรับลดลงได้ในช่วงไตรมาส 4/65 ทำให้ปัจจัยการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นปัจจัยเข้ามากดดันผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ หนุนต่อศักยภาพต่อความสามารถในการทำกำไรของ TTB และปรับเพิ่มเป้ากำไรปีนี้เป็นเติบโต 26% จากเดิมที่คาดเติบโตราว20%

ส่วนแนวโน้มของสินเชื่อในครึ่งปีหลังของ TTB ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้ความต้องการสินเชื่อยังมีอยู่ แต่อาจจะมีการชะลอตัวไปบ้าง หลังจากช่วงที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อยที่อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังเห็นการเติบโตได้ในระดับที่ดี และมีสินเชื่อที่ภาคธุรกิจที่เข้ามาเสริม โดยพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอกชนรายใหญ่ที่จะเห็นการกลับมาใช้สินเชื่อเพื่อลงทุนโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น หนุนต่อการเติบโตขึ้นของสินเชื่อในครึ่งปีหลังนี้ได้ โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 1.45 บาท/หุ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top