GULF เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4 ปี 3.50%,7 ปี 3.90% ขายนักลงทุนทั่วไป 15-17 ส.ค.

บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กำหนดอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี และอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.90% ต่อปี

ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ระดับ “A-” และอันดับเครดิตองค์กร “A” แนวโน้ม “คงที่” โดยเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไปในระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2565

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า หุ้นกู้ GULF ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนที่สอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้วยดี เนื่องจาก GULF มีกระแสเงินสดที่มั่นคง จากการที่มีสัญญาระยะยาวกับภาครัฐ ทำให้มีรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ รวมถึง GULF มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ทั้งราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น หรืออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน และน่าพอใจ นอกจากนี้ GULF ยังมีช่องทางการเสนอขายหลายช่องทาง ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ได้หลากหลายทั้งทางแอปฯ “เป๋าตัง” และสถาบันการเงินถึง 9 แห่ง

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งนี้แบ่งเป็น “หุ้นกู้ดิจิทัล” อายุ 4 ปี และอายุ 7 ปี เสนอขายผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย โดยจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท

และ “หุ้นกู้ทั่วไป” อายุ 4 ปี และอายุ 7 ปี เสนอขายผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 9 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทยธนชาตธนาคารยูโอบี บล.เกียรตินาคินภัทร และบล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) โดยจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

ทั้งนี้ GULF ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) มีโครงสร้างหลักแบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Power Generation Business) 2. ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Business) 3. ธุรกิจก๊าซ (Gas Business) 4. ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค (Infrastructure & Utilities Business) และ 5. ธุรกิจดิจิทัล (Digital Business) โดยโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ มีรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ เนื่องจากมีสัญญาระยะยาวกับคู่สัญญาที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top