YONG ปิดเทรดวันแรกที่ 2.62 บาท สูงขึ้น 4.80% จาก IPO

YONG ปิดเทรดวันแรกที่ 2.62 บาท ปรับขึ้น 0.12 บาท (+4.80%) จากราคา IPO ที่ 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,729.15 ล้านบาท จากราคาเปิดที่ 4.50 บาท ราคาสูงสุด 4.50 บาท ราคาต่ำสุด 2.62 บาท

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินราคาพื้นฐานของ บมจ. ยงคอนกรีต (YONG) ด้วยราคาพื้นฐานที่ 3.00 บาท อิง PE ปี 2566 ที่ 18x โดยคาดกำไรสุทธิในปี 2565 จะเติบโต 17.0% yoy จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม และคาดกำไรสุทธิโตต่อเนื่อง 41.1% yoy ในปี 2566 ท่ามกลางคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ โดยบริษัทมีกลุ่มลูกค้าอสังหาฯ แนวราบที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจมานาน และลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ

ทั้งนี้ ประเด็นสาคัญในการลงทุนได้แก่

– ความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้น ศูนย์วิจัยกรุงศรีประเมินมูลค่าการลงทุนในภาคก่อสร้างจะขยายตัวร้อยละ 4.9 -5.2 ในปี 2564 -66 และการลงทุนจากภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.0 ต่อปี ซึ่งมีโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่ง YONG มีแผนขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วยแผนการขยายกำลังการผลิตโรงงานสาขาบางเลนและการก่อสร้างโรงงานใหม่ 2 สาขา เพื่อตอบรับความต้องการดังกล่าว โดยจะสามารถเริ่มทยอยรับรู้กาลังการผลิตส่วนเพิ่มได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป นอกจากนี้ YONG ยังมุ่งเน้นการทำอัตรากำไรที่สูงมากกว่าการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้บริษัท สามารถทำการเติบโตของกำไรสุทธิได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่อง

– ผลประกอบการเร่งตัวขึ้นในปี 2566 เราประเมินกำไรสุทธิปี 2565 จะโตขึ้นเล็กน้อย 17.0% yoy อยู่ที่ 81 ล้านบาท ซึ่งถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งราคาเหล็ก ซีเมนต์ แต่ได้แรงหนุนจากกาลังการผลิตส่วนเพิ่มจากการขยายโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จที่บางใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ดี การเติบโตของ YONG จะเด่นชัดมากขึ้นในปี 2566 โดยคาดโตขึ้น 32.9% yoy อยู่ที่ 107 ล้านบาท จากการรับรู้กาลังการผลิตส่วนเพิ่มจากการขยายโรงงานที่บางเลน การเร่งตัวของโครงการภาครัฐที่เริ่มมีการใช้วัสดุมากขึ้น ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบคาดทรงตัวในระดับสูงถึงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในปีหน้า

– ประเมินมูลค่า YONG ด้วยราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 3.00 บาท อิง PE ประมาณ 18.0 เท่า โดยเรามองว่าการประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี PE Valuation เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากสามารถเทียบเคียงกับคู่แข่งรายอื่นในอุตสาหกรรมได้ โดย target PE ของ YONG สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกันที่อยู่ที่ประมาณ 16.0 เท่า เนื่องจากการคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2566 ที่จะเร่งตัวขึ้นมาที่ 41.1% yoy และอัตรากำไรขั้นต้นของ YONG ในปี 2566 ที่ระดับ 31.3% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นที่อยู่ในช่วง 8.0-20.0% จากการที่ YONG มีจดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์รั้วสาเร็จรูปแต่เพียงผู้เดียว ทำให้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้วยอัตรากำไรที่ดีกว่าได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top