บิ๊กป้อม สั่งเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ภาคใต้ รับมือฝนหนัก 3-5 ธ.ค.

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวภายหลังเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ และประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ โดยมอบหมายให้ สทนช.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อซักซ้อมหน่วยงานในการเร่งปฏิบัติการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเข้มข้น

รวมถึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมให้แก่ประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการมวลน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากจากฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ และคาดการณ์ว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ พล.อ.ประวิตร จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ขึ้น โดยมอบหมายให้ สทนช.ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กอนช.จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคใต้ เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการน้ำและเผชิญเหตุในเชิงป้องกัน ทั้งในส่วนกลางและหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ติดตาม วิเคราะห์ คาดการณ์ฝน พายุที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงสถานการณ์น้ำ พร้อมแจ้งเตือน และจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ แผนเผชิญเหตุ เพื่อบริหารจัดการน้ำ โดยแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนสนับสนุน และส่วนประชาสัมพันธ์ ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มจะเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน โดยประชุมติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าสถานการณ์ฝนตกหนักจะเข้าสู่ภาวะปกติ

“การประชุมวันนี้ ทุกหน่วยงานได้รับทราบองค์ประกอบคณะทำงานฯ และอำนาจหน้าที่ รวมทั้งเตรียมการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในพื้นที่ และช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค.นี้ กอนช.ประเมินว่า บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง” นายสุรสีห์ กล่าว

ทั้งนี้ จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 55/2565 เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) รวมทั้งอ่างฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top