DTAC-TRUE บวกสวนตลาด หลังควบรวมฯคืบหน้า โบรกฯแนะเก็งกำไร

DTAC-TRUE บวกสวนตลาด หลังมีความคืบหน้าการควบรวมกิจการ เมื่อเวลา 10.34 น.

  • DTAC ปรับขึ้น 2.34% หรือเพิ่มขึ้น 1.00 บาท มาที่ 43.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 196.17 ล้านบาท
  • TRUE ปรับขึ้น 0.74% หรือเพิ่มขึ้น 0.04 บาท มาที่ 4.78 บาท มูลค่าซื้อขาย 105.54 ล้านบาท

บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่าจากข่าวบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ควบรวมกับบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ระบุว่า สัปดาห์นี้ประชุมบอร์ดกำหนดวันรับซื้อหุ้นคืน DTAC ที่ราคา 50.50 บาท และ TRUE ที่ราคา 5.15 บาท และจะประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 27 ม.ค. 66 และเป็นวันเทรดวันสุดท้าย ก่อนหยุดเทรดวันที่ 30- 31 ม.ค.66 และถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทที่ควบรวมใหม่จะเข้าทำการเทรดแทนหลังกระบวนการควบรวมเสร็จสิ้น

โดยราคารับซื้อคืน DTAC และ TRUE สำหรับผู้ถือหุ้นที่ไม่ประสงค์จะแปลงหุ้นเป็นหุ้นบริษัทควบรวมใหม่ ถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล เนื่องจากผู้ประเมินอิสระได้ประเมินไว้ว่าราคาแปลงหุ้น DTAC ที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระหว่าง 39.2-50.5 บาท ขณะราคาแปลงหุ้น TRUE ที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 4.1-6 บาท ทั้งนี้หากผู้ถือหุ้นที่ต้องการถือหุ้นควบรวม สำหรับหุ้น DTAC สัดส่วนการแปลงคือ 1 หุ้น DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นบริษัทใหม่ สำหรับหุ้น TRUE สัดส่วนการแปลงคือ 1 หุ้น TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นบริษัทใหม่

ทั้งนี้หากยึดจากราคารับซื้อหุ้น DTAC ที่ 50.50 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่ผู้ประเมินอิสระประเมินไว้เป็นตัวกำหนด จะได้ราคาเป้าหมายบริษัทใหม่ที่ 8.2325 บาท (บริษัทใหม่มีราคาพาร์ที่ 4 บาท) ซึ่งเทียบเท่าราคาเป้าหมาย TRUE ที่ 4.94 บาท

ดังนั้น ราคา TRUE ปัจจุบัน จึงถือว่ามี upside ที่จำกัด ขณะที่ราคาหุ้น DTAC ปัจจุบันยังมี upside ถึง 18% ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มมือถือที่น่าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นมากสุดในขณะนี้ โดยกำหนดราคาเป้าหมายที่ 50.50 บาท นอกจากนี้การควบรวมกับ TRUE จะช่วยให้ DTAC สามารถ roaming คลื่น 5G จาก TRUE มาให้บริการได้ในช่วง 3 ปีแรกที่กสทช.กำหนดให้ทั้ง 2 บริษัทยังต้องแยกแบรนด์ใน 3 ปีแรก

บล.ทิสโก้ มอง DTAC ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของทิสโก้ สำหรับ Thai Telecoms แม้ว่าราคาหุ้น DTAC และ TRUE จะไม่กลับไปสู่ระดับเดิม แม้จะมีการปรับปรุงทางกฎหมายในเชิงบวกเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ความเชื่อมั่นในเชิงลบของตลาดควรจะหายไปเมื่อมีการประกาศการควบรวมกิจการ โดยในเรื่องของผลตอบแทนต่อความเสี่ยงและอัพไซด์ของ DTAC มากกว่าหุ้นตัวอื่นๆ ที่อยู่ในการวิเคราะห์ของเราสำหรับกลุ่ม Telecom ดังนั้น เราจึงยังคงมองว่า DTAC น่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นในระยะสั้น

ราคาหุ้นของ TRUE และ DTAC ได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจาก CP/Telenor ตัดสินใจยกเลิกคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (VTO) แม้ว่าศาลปกครองจะปฏิเสธคำร้องของสภาผู้บริโภคแห่งประเทศไทย (สคบ.) เมื่อเร็วๆ นี้ และเรามองว่าการยกเลิก VTO ไม่สำคัญ เนื่องจากการประกาศวันควบรวมกิจการนั้นใกล้เข้ามาแล้ว แต่ราคาหุ้นยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับเดิมก่อนวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยในระหว่างการ roadshow ในเดือนพฤศจิกายน เราสังเกตเห็นว่านักลงทุนมีความกังวลเรื่องการฟ้องร้องว่าจะส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงของบริษัทที่ควบรวมกิจการหรือไม่ และกลุ่มบริษัทบมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์ยี ดีเวลลอปเมนท์(GULF) อาจดำเนินการชะลอการควบรวมกิจการออกไปอีก

จากความกังวลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดจึงน่าจะประเมิน TRUE/DTAC ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อตอบแทน โดยในแง่ของความเสี่ยง เราใช้มูลค่าการชำระบัญชีเพื่อประเมินมูลค่าหุ้นในกรณีที่แย่ที่สุดของ DTAC/TRUE มากกว่า P/B ซึ่งจากการประเมินมูลค่าของผู้ใช้บริการ ทรัพย์สินโครงข่าย และสิทธิในคลื่นความถี่ของบริษัท เราประเมินมูลค่าการชำระบัญชีของ DTAC อยู่ที่ 39 บาท/หุ้น ในขณะที่ TRUE อยู่ที่ 1.8 บาท/หุ้น ด้วยราคาเป้าหมายของเราที่ 59 บาท/หุ้น และ 5.8 บาท/หุ้น ซึ่งจากสมมติฐานมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของ DTAC (4.3:1) มากกว่า TRUE (0.36:1)

หนึ่งในคำถามที่เรามักจะเจอในระหว่างการ roadshow คือเรื่องของราคาเป้าหมายของ DTAC/TRUE ว่าราคานั้นอยู่ในมุมมองเชิงบวกมากเกินไปหรือไม่ อีกทั้งเรื่องการแข่งขันกับ ADVANC ว่าจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่

ทิสโก้ได้มีการออกบทวิเคราะห์ตามรายงานในเดือนมีนาคม 2565 เรื่อง “การปรับสมมติฐานการควบรวมกิจการ” โดยราคาเป้าหมายของเราสันนิษฐานว่า NewCo จะมีมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสันนิษฐานต่อไปว่าการลด Capex และ OPEX จะไม่บรรลุผลอย่างเต็มที่จนถึงปี 2570-2571 เราแนะนำให้ “ซื้อ” DTAC และ TRUE โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 59.00 บาท และ 5.80 บาทตามลำดับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top