“วันนอร์” รอฟังความเห็นทีมกม.-วิป 3 ฝ่าย ก่อนประเมินเลื่อนโหวตนายกฯ หรือไม่

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวว่า วันนี้ขอรับฟังความเห็นจากทีมกฎหมายของประธานสภาฯ ซึ่งได้นัดหารือกันในเวลา 14.00 น. รวมทั้งรับฟังข้อมูลความเห็นให้ครบถ้วนจากที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ก่อนที่จะมีความชัดเจนว่าจะต้องเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี ออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 27 ก.ค.หรือไม่ หลังจากผู้ตรวจการแผ่นดิน เตรียมส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการใช้ข้อบังคับที่ 41 ในการประชุมรัฐสภาเมื่อ 19 ก.ค. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลสั่งให้รัฐสภารอการโหวตเลือกนายกฯ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

ทั้งนี้ หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายกฎหมาย รวมทั้งวิป 3 ฝ่ายแล้ว ประธานรัฐสภาจะใช้อำนาจพิจารณาเลื่อนการโหวตนายกฯ ตามข้อบังคับได้เลยหรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตามข้อบังคับกาประชุม ประธานรัฐสภามีอำนาจสั่งเลื่อน หรือยกเลิกการประชุมได้ แต่ตนขอรอข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

ส่วนที่ล่าสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาให้ความเห็นถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมข้อบังคับการประชุมสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจก้าวล่วงงานของสภาฯ และไม่อาจสั่งให้หยุดเลือกนายกฯ ได้นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องรับฟัง แต่ต้องเคารพต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย เพราะคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันต่อทุกองค์กร รวมถึงรัฐสภา ดังนั้นต้องฟังศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก

“ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเมื่อใด แต่คิดว่าเป็นเรื่องด่วน น่าจะส่งแล้ว ขณะเดียวกันยังไม่ชัดเจนว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ และมีคำสั่งในกรณีที่ขอให้รัฐสภาหยุดการโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ ดังนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับ ถือว่าไม่มีประเด็น แต่หากรับไว้ ก็ต้องพิจารณาว่าจะมีคำสั่งอย่างใดหรือไม่” ประธานรัฐสภา ระบุ

เมื่อถามว่ากรณีที่มองว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่รับ หากงดประชุมรัฐสภา จะเสียหายหรือไม่นั้น ประธานรัฐสภา กล่าวว่า “ไม่ทราบประเด็นสำคัญ แต่คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีวาระพิจารณาเร็วๆ นี้ หากประชุมหรือทำอะไร อาจจะเกิดความเสียหาย และขัดแย้ง สับสนได้ ดังนั้นขอเวลาวันนี้ก่อน เพื่อให้พอจะประเมินสถานการณ์ได้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top