“เพื่อไทย” สรุปเสียงตั้งรัฐบาลสัปดาห์นี้ รับเจรจาดึงกลุ่ม สส.หลายพรรคโหวตหนุน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันนี้พรรคเพื่อไทยได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจาก 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย หลังจากได้ประกาศจับมือกับพรรคภูมิใจไทยเป็พรรคแรก ทำให้ขณะนี้มีเสียงสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลแล้ว 228 เสียง และในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) จะมีการแถลงความร่วมมือกับพรรคชาติไทยพัฒนา

นอกจากนี้ ยังยอมรับว่าได้ขอความร่วมมือจากกลุ่ม สส.ในหลายพรรรคเพื่อให้มาโหวตสนับสนุนแคนดิเดทของพรรคเพื่อไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองในการผ่าทางตัน ซึ่งขณะนี้เบื้องต้นได้รวมเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ยังต้องการเสียงเพิ่มเติมเพื่อจัดต้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ คาดว่าจะสามารถสรุปเสียงสนับสนุนจาก สส.ทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์นี้

สำหรับ สส.จากพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทุกพรรคที่กล่าวมา ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่จะมาโหวตให้หรือไม่ เราแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย การโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเอกสิทธิ์ที่ทุกฝ่ายตัดสินใจได้ ส่วนพรรคก้าวไกลมีข้อจำกัดอย่างมากในการร่วมรัฐบาล เราพยายามแสวงหาเสียงสนับสนุนให้มากที่สุด แต่เคารพเอกสิทธิ์จากพรรคก้าวไกล เรายินดีกับพรรคก้าวไกลถ้าจะมาร่วม ถือเป็นมิติใหม่

ส่วนกรณีที่สว.อาจไม่สบายใจหากพรรคก้าวไกลจะยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามั่นใจว่า แนวทางที่ทำไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่ทำให้สว.กังวล เพราะเราไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ถ้าทำงานร่วมกันก็ต่างสถานะ คือ ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่วนการแก้ไข ม. 112 ไม่มีในแนวทางที่ดำเนินการ และเชื่อว่า สว.จะให้เสียงสนับสนุนเราได้

พร้อมยืนยันว่า แคนดิเดทนายกฯ พรรคเพื่อไทย ยังเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน และมั่นใจว่า จะผ่านความเห็นชอบจากสภา

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึง กรณีที่สส.ของพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับแนวทางการตั้งรัฐบาลข้ามขั้วว่า เมื่อวานมีการเปิดให้สส.เปิดอกพูดคุยอย่างเต็มที่ เท่าที่ฟังไม่มีสส.คนใดไม่เห็นด้วยถึงขึ้นกรณีถ้าย้ายขั้ว มีประเด็นห่วงใยตรงนั้น แต่ถึงขนาดย้ายฟากออกไปจากพรรคยังไม่มี ยืนยันพรรคเพื่อไทยเป็นเอกภาพ และรับได้กับสภาพที่เป็นอยู่

 

ด้านนายภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมนำสส. 24 คนย้ายไปอยู่กับพรรคก้าวไกลว่า ในที่ประชุมพรรคที่ผ่านมา นายจาตุรนต์ยังร่วมสนับสนุนแนวทางนี้ ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาควรไปสอบถามจากนายจาตุรนต์โดยตรง ซึ่งที่ประชุมพรรคมีเสียงสะท้อนที่มีปัญหามีเสียงสองเสียงเท่านั้น และตนเข้าใจความเจ็บปวด แต่เราไม่อยากเดินไปสู่จุดนี้ การที่เราพยายามทำเพื่อหาทางออกให้ประเทศ

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายนี้จะหารือกับพรรคก้าวไกล และพรุ่งนี้มีอีกหลายๆพรรค และยืนยันว่า เรามีความชอบธรรม เสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว พยายามทำให้ทุกฝ่าย ทุกกลุ่มมาพูดคุย รวมถึง สว. เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

“การรวบรวมเสียง รัฐบาลนี้ไม่สามารถทำแบบเดิม วันนี้ใช้ความมีส่วนร่วมเต็มที่ เราเจรจากัน ถ้าเป็นไปตามระบบเป็นพรรคการเมืองก็ดำเนินการตามนั้น ถ้าเป็นคนก็มาตามนั้น ที่พูดกับเราข้างหลังมันเกินไปแล้ว แต่เราต้องการรัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง อาจมีบางกลุ่มมา เพื่อวาระประเทศ เพื่อให้พ้นวิกฤติทั้งหมด” นายภูมิธรรม กล่าว

 

*ชาติพัฒนากล้า ห่วงการเมืองสุญญากาศไม่เป็นผลดี

ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคตอบรับคำเชิญในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ด้วยเหตุผลคือ

1.พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคที่มีความชอบธรรมเพราะเป็นพรรคอันดับ 2 เมื่อพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้

2.พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าวันนี้ได้เสียงสส.เกินกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน จึงมั่นใจได้ว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก

3.ภายใต้การนำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้รับการยืนยันว่าจะไม่มีนโยบายที่เกี่ยวข้อง กับการแก้ไขมาตรา 112

4. พรรคเพื่อไทยมีความแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เรามั่นใจเพราะพรรคเพื่อไทยเคยมีประสบการณ์ในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ และประสบความสำเร็จมาแล้ว

5.จำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว สร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศ นักลงทุน

“มาถึงวันนี้เกือบ 3 เดือนที่ยังไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง วิกฤติเศรษฐกิจรอไม่ได้ จำเป็นต้องมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งสร้างมั่นใจนักลงทุนจากต่างประเทศ การที่ปล่อยให้มีสุญญากาศบ้านเมืองไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย พรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมร่วมมือสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ” นายสุวัจน์ กล่าว

 

*ประชาชาติ ยันยกมือให้เพื่อไทย เท่านั้น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ในวิกฤติขณะนี้ เรื่องใหญ่สุดคือ หน้าที่สภา เราต้องรับภารกิจรัฐธรรมนูญมาเห็นชอบแต่งตั้งนายกฯ เมื่อได้นายกฯจะนำสู่กระบวนการสรรหารัฐมนตรีและแก้ปัญหาประเทศ

“เราจะขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ ถ้าออกนอกไปจากนั้น จะไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย แต่เรายังไม่ได้คุยเรื่องนโยบายแต่ปัญหาประเทศสำคัญ จึงจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรี เราไม่ได้พูดคุยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี และพรรคประชาชาติยังขอแสดงจุดยืนในนโยบายต่างๆไว้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

 

*”เสรีพิศุทธ์” ชี้หาเสียงไม่ใช่นโยบาย แนะเปิดใจกว้าง

พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยดำเนินการทุกวิถีทางสลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย ตนฝากให้ประชาชนเปิดใจให้กว้าง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และมีความเข้าใจผิดว่าตอนหาเสียงเคยพูดอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องยึดมั่นละเมิดไม่ได้ แต่จะเห็นว่าการหาเสียงก็คือการหาเสียง เพื่อให้ได้คะแนนเสียงมาบริหารประเทศ ไม่ใช่นโยบายพรรค ถ้าเป็นนโยบายแล้วไม่ทำจึงถือว่าผิดสัญญา เพราะฉะนั้นเรื่องของการหาเสียงเมื่อจบไปแล้ว ได้คะแนนมาเท่าไหร่ก็บริหารกันไป

“ขณะนี้ มีเสียงบางเสียงบอกว่า ให้รวมพรรคนี้ได้รวมพรรคนั้นไม่ได้ ก็ขอให้ไปดูสามก๊ก หรือประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยก่อน กษัตริย์ทำศึกสงครามถ้าฆ่าแม่ทัพตายแล้ว เราจะเอาไพร่พลไปเลี้ยงดูต่อไปหรือไม่ เอามาปลูกข้าวทำนา หรือฆ่าทิ้งให้หมด จะเห็นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไปแล้ว ไม่มีแล้วแม่ทัพ เราควรจะเอาไหม บางคนบอกว่าไม่ได้ แต่ผมมองว่าก็ควรจะเลี้ยงดูไว้ หรือแม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐ แม่ทัพยังอยู่ แต่แม่ทัพก็ยอมแพ้ไปแล้ว เราจะเอาพลไพร่ต่างๆมาเลี้ยงดูไหม ก็ฝากเป็นข้อคิดให้พี่น้องประชาชน ว่าขอให้เปิดใจให้กว้าง เพื่อสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลให้ได้”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ส.ค. 66)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top