ONEE ปรับวัตถุประสงค์ใช้เงินขายหุ้น IPO จัด 500 ลบ.ใช้เตรียมความพร้อมโอกาสธุรกิจ

บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2566 ประชุมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 มีมติอนุมัติ การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนและการเปลี่ยนแปลงกำหนดระยะเวลาใช้เงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย (ชุดใหม่) และการปรับโครงสร้างองค์กรบริษัท

ตามที่ ONEE ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครัˢงแรก (IPO) โดยออกหุ้นสำมัญเพิ่มทุน จำนวน 476,250,000 หุ้น ที่ราคา 8.50 บาทต่อหุ้น ในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยบริษัทฯ ได้รับเงินสุทธิจากการเพิ่มทุนจำนวน 3,900 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง)

เนื่องด้วยจำนวนเงินคงเหลือจากเงิน IPO สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 เท่ากับ 902 ล้านบาท ซึ่งลดลง 15% จากที่ประมาณการไว้ 1,070 ล้านบาท ดังนั้น ฝ่ายบริหารจึงได้ทบทวนจำนวนเงินที่จะใช้จาก IPO เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และแผนธุรกิจของบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมทั้งเพื่อให้การบริหารจัดการเงินที่ ได้รับจาก IPO เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ดังนี้

  1. การลงทุนพัฒนาศักยภาพในการผลิตรายการและเพิ่มงบประมาณผลิตรายการ จำนวนเงินประมาณ 500 ล้านบาท จำนวนเงินคงเหลือ (ณ 30 มิ.ย.66) 387 ล้านบาท โดยปรับระยะเวลาใช้เงินจากภายในปี 2566 เป็น ภายในปี 2568

  2. การลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) จำนวนเงินประมาณ 130 ล้านบาท จำนวนเงินคงเหลือ (ณ 30 มิ.ย.66) 17 ล้านบาท โดยปรับระยะเวลาใช้เงินจากภายในปี 2567 เป็น ภายในปี 2568

  3. การปรับโครงสร้างเงินทุนโดยการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวน 2,200 ล้านบาท ซึ่งข้อนี้ได้ดำเนินการแล้ว

  4. เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ปรับวงเงินใช้จาก 1,070 ล้านบาท เป็น 570 ล้านบาท ซึ่งคงเหลือวงเงิน 402 ล้านบาท

  5. เงินลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นของบริษัทและบริษัทย่อย หรือธุรกิจอื่น จัดวงเงิน 500 ล้านบาท

พร้อมทั้งปรับโครงสร้างองค์กบริษัทใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top