หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งอิงบวกรับแรงหนุนน้ำมันดิบปรับขึ้น จับตาครม.นัดแรกเคาะมาตรการกระตุ้นศก.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวอิงทางบวก รับแรงหนุนราคาน้ำมันปรับขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดันดัชนี และติดตามประชุมครม.นัดแรก อาจเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ลดค่าครองชีพ เป็นแรงส่งตลาดหุ้นไทย แต่ยังรอติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,555 จุด แนวรับ 1,540 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัว อิงทางบวกได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น หลังกลุ่มโอเปกยังคงขยายระยะเวลาลดการผลิตน้ำมัน และคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันยังสูงไปถึงปี 67 ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะเข้ามาผลักดันดัชนีได้ในวันนี้

ขณะที่ปัจจัยวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ซึ่งต้องติดตามการเคาะมาตรการต่างๆออกมา โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และลดค่าครองชีพ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยได้

ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังรอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,555 จุด แนวรับ 1,540 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,645.99 จุด ลดลง 17.73 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,461.90 จุด ลดลง 25.56 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,773.61 จุด ลดลง 144.28 จุด หรือ -1.04%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,742.29 จุด ลดลง 34.08 จุด หรือ -0.10% แต่หลังจากเปิดตลาด 15 นาที ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 68.81 จุด หรือ +0.21% สู่ระดับ 32,845.18 ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 18,131.10 จุด เพิ่มขึ้น 105.21 จุด หรือ +0.58% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,137.77 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด หรือ +0.02%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.ย.66) เพิ่มขึ้น 4.56 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 40,984.43 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 729.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. (12 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 88.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2565

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.ย.) อยู่ที่ 11.52 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.59 แนวโน้มผันผวน คาดกรอบ 35.50-35.70 ตลาดจับตาเงินเฟ้อสรัฐ

– นายกฯ ประชุม ครม.นัดแรก เร่งเครื่องฟื้นการท่องเที่ยว กุญแจดอกแรกกระตุ้นเศรษฐกิจไทยแบบควิกวิน เสนอนโยบาย “วีซ่าฟรี” เดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ดึงนักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน สั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับทัวริสต์จ่อทะลักไทย เริ่ม 25 ก.ย. นาน 5 เดือน ถึง ก.พ. 2567 คลุม 2 โกลเด้นวีค หยุดยาววันชาติจีน 1 ต.ค. ตรุษจีนปีหน้า “แอตต้า” เผยเอกชนท่องเที่ยว คึกคักรับสัญญาณบวก “กัปตันพุฒิพงศ์” บิ๊กบางกอกแอร์เวย์ส ชี้มาตรการวีซ่า-ฟรี ยาแรงดีสุด ดันท่องเที่ยวรับบท “Instant Win” เศรษฐกิจไทย

– “เศรษฐา” เครื่องร้อนประชุม ครม. นัดแรก ชงวาระเงินดิจิทัล ลดราคาพลังงาน อัดงบ 4.5 หมื่นล้าน หนุนพักหนี้เกษตรและกลุ่มปัญหาหนี้เรื้อรัง พร้อมดันวีซ่าฟรีรับท่องเที่ยวจีน “คลัง” พร้อมแจงงบแจกเงินดิจิทัล สำนักงบฯ ชงปฏิทิน งบปี 2567 เผยเตรียมนัดคุย 4 หน่วยงานเศรษฐกิจสรุปวงงบประมาณให้จบใน ก.ย.นี้ นายกฯ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เร็วที่สุด ด้านเอกชนค้าน ขอให้รอเศรษฐกิจฟื้น

– “คมนาคม” พร้อมผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแบบถ้วนหน้า เริ่มสายสีม่วง และสายสีแดง 1 ม.ค.2567 ประเมินใช้งบประมาณอุดหนุนส่วนต่างราว 136 ล้านบาทต่อปี “บีทีเอส” ประกาศพร้อมเจรจา

– “ต่างชาติ” ทิ้งบอนด์ไทยระยะสั้น 1.16 แสนล้าน เหลือยอดคงค้างเพียง 6.4 หมื่นล้าน จากปีก่อนที่ 1.8 แสนล้าน “ไทยบีเอ็มเอ” คาดแนวโน้มไหลออก เหตุดอกเบี้ย สหรัฐสูงกว่าไทยถึง 3% ส่งผลปล่อยครบกำหนด แล้วดึงเงินกลับ ส่วนเม็ดเงินลงทุนใหม่ชะลอ ดูนโยบายรัฐบาลใหม่มีแผนการออกบอนด์บลจ.เอ็กซ์สปริงแนะลงทุนบอนด์ต่างประเทศจากยีลด์เด่น

 

หุ้นเด่นวันนี้

– บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GFC” ในวันที่ 13 กันยายน 2566 ราคา IPO 7.00 บาท/หุ้น GFC และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมสาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ที่ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัย โดยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการภายใต้ชื่อ “Genesis Fertility Center” ในย่านพระราม 3 บนพื้นที่ให้บริการประมาณ 1,300 ตารางเมตร มีแพทย์ 14 ท่าน

– PRTR (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.50 บาท คาดภาพรวมกำไรในช่วง 2H23 จะขยายตัวขึ้น h-h ตามจำนวนพนักงาน Outsource ที่เพิ่มขึ้น และการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ขณะที่ภาพระยะกลางคาดได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากธุรกิจต่อยอด เช่น การฝึกอบรม, แพลตฟอร์มหางาน รวมทั้งแพลตฟอร์มคำนวนเงินเดือน ส่วนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ล่าสุดนายกฯชี้แจงว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยมีเป้าหมายปีนี้ที่ 400 บาทโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อ PRTR

– ADVANC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 240.57 บาท มองแวดล้อมการแข่งขันดีขึ้นทั้งมือถือและเน็ตบ้านหลังดีลควบรวมกิจกรรมในอุตสาหกรรม อีกทั้งมองมีโอกาส spin-off ทรัพย์สินรวมถึงเสาส่งสัญญาณ เป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นถูก rerating ปลดล็อกเพิ่ม valuation มูลค่าหุ้น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top