หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค จับตาประชุมเฟด-BoE-BOJ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ระมัดระวังก่อนเข้าสู่การประชุมธนาคารกลางหลายธนาคารในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะเฟด ซึ่งคาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง รวมถึง BOJ ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินแบบกลับทิศ ให้แนวรับไว้ที่ 1,535-1,530 จุด และแนวต้าน 1,555 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง ยังไปไหนได้ไม่ไกลนัก เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง และรอดูการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

อีกทั้งรอดูประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย. และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในวันศุกร์ที่ 22 ก.ย. โดยให้ติดตาม BOJ ซึ่งอาจเห็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินจากเดิมที่ติดลบ ทำให้กลับมาเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นได้

นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.3% อีกครั้ง น่าจะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยให้ไปไหนได้ไม่ไกล

ให้แนวรับไว้ที่ 1,535-1,530 จุด และแนวต้าน 1,555 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (15 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,618.24 จุด ลดลง 288.87 จุด หรือ -0.83%ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,450.32 จุด ลดลง 54.78 จุด หรือ -1.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,708.34 จุด ลดลง 217.72 จุด หรือ -1.56%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 18,069.04 จุด ลดลง 113.85 จุด หรือ -0.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,110.44 จุด ลดลง 7.30 จุด หรือ -0.23% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (18 ก.ย.) เนื่องในวันผู้สูงอายุ

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.ย.66) 1,542.03 จุด ลดลง 3.11 จุด (-0.20%) มูลค่าซื้อขาย 52,066.56

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,003.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.ย.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. (15 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565 และพุ่งขึ้น 3.7% ในรอบสัปดาห์

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.ย.) อยู่ที่ 11.61 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.69 แนวโน้มแข็งค่า จับตาผลประชุม FED-BoE-BOJ

– สภาธุรกิจตลาดทุนไทยชี้นายกฯไม่เก็บภาษีหุ้น ช่วยดันมูลค่าการซื้อขายได้ เชื่อต่างชาติกลับมาลงทุน พร้อมเสนอปรับเกณฑ์กองทุน SSF ให้สิทธิลดหย่อนภาษี เน้นลงทุนหุ้นไทยยั่งยืนมากขึ้น คาดดันเม็ดเงินใหม่เข้ามาปีละ 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่โครงการภาครัฐใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือได้ ด้านนายกสมาคม VI ชี้ตลาดทุนไม่เอื้อคนรวยแต่เป็นชนชั้นกลาง

– เปิดนโยบาย-วิสัยทัศน์ 2 เรือธงเคลื่อนทัพท่องเที่ยวไทย “สุดาวรรณ” รมว.การท่องเที่ยวฯ เล่นใหญ่ ปรับเป้าปี 67 เพิ่มทัวริสต์ต่างชาติพุ่งทะยาน 40 ล้านคน เท่าปี 62 ก่อนโควิดระบาด ด้าน “ฐาปนีย์” ผู้ว่าการ ททท. รับลูก มั่นใจสัญญาณบวก นายกฯ ติดสปีด ทุกกระทรวงหนุนปั๊มรายได้ท่องเที่ยว

– ภาคธุรกิจกางสารพัดปมฝ่าโจทย์หินเคลื่อนท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ค้าปลีกเตรียมหารือนายกฯ เสนอวาระด่วน กระตุ้นทัวริสต์ใช้จ่ายควบคู่ เสนอสร้าง แซนด์บ็อกซ์ “ภูเก็ต” เมืองปลอดภาษี “แอตต้า” อ้อนขอ “วีซ่า-ฟรี” เฟส 2 ตลาด “อินเดีย-ไต้หวัน” หวังเริ่มเทศกาลปีใหม่ 2567 จี้เร่งเครื่อง ฟื้นความเชื่อมั่น “เที่ยวไทยปลอดภัย” กู้ยอด “นักท่องเที่ยวจีน” เร่งเป้าทัวริสต์ปี 67 เพิ่มเป็น 40 ล้านคนเท่าปี 62 ก่อนโควิดระบาด กต.พบผิดกฎหมายยกเลิกได้ตลอด พร้อมเชื่อมข้อมูล แบล็กลิสต์กับ ตม.

– คมนาคมปูพรม โครงข่ายต่อเนื่อง มอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี บูมเมืองกาญจน์ แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง หอการค้าลุยยกระดับ “ไมซ์ซิตี้” ดูดกำลังซื้อทั่วโลก ยักษ์เซ็นทรัล ซุ่มเงียบหาที่ดินขึ้นโรงแรมหรู

– เอกชนกระทุ้งรัฐบาลเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งท้ายปี 66 ททท. ดัน Quick win ดึงต่างชาติเที่ยวไทยทะลุเป้า 28 ล้านคน ขอขยายวีซ่าเป็น 45 วัน บิ๊กค้าปลีกขอคัมแบ็ค “ช้อปดีมีคืน-คนละครึ่ง” กระตุ้นกำลังซื้อ หอการค้าฯ เสนอ “เศรษฐา” ร่วมภาคธุรกิจลุยโรดโชว์ต่างประเทศ ขยายการค้า-ดึงการลงทุน

 

*หุ้นเด่นวันนี้

 

– BH (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 300 บาท เราคาดกำไรไตรมาส 3/66 ลุ้นทำ New High หนุนจากการเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติที่เร่งขึ้น ขณะที่ผู้ป่วยไทยได้อานิสงส์จากโรคระบาด เบื้องต้นคาดรายได้จะโตแรง 20-40% y-y เราคาดกำไรปี 2566 ที่ 6.8 พันลบ. +37% y-y และเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2567 ที่ 7.1 พันลบ. +5% y-y

– BEM (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท) เรามองเป็นบวกในเรื่อง นโยบายรัฐบาลเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ที่มีแนวโน้มสูงที่รัฐบาลเองจะเป็นผู้ภาระ หรือ BEM ได้รับผลกระทบก็จะน้อยกว่าที่เคยคิด แต่อาจได้ประโยชน์ถ้ามีผู้เข้าใช้บริการในระบบมากขึ้น Ridership เดือน ส.ค. ทำสถิติสูงสุดใหม่ BEM รายงานจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเดือน ส.ค. 2566 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 4.2 แสนเที่ยว/วัน (+31% YoY, +8% MoM) โดยตัวเลขเฉลี่ย 8M23 อยู่ที่ 3.8 แสนเที่ยว/วัน (+62% YoY) ขณะที่ผู้ใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยว/วัน (+4% YoY, +2% MoM) และตัวเลขเฉลี่ย 8M23 อยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยว/วัน งวดครึ่งปีหลัง คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะโตต่อเนื่อง YoY, HoH หนุนโดยภาคการเดินทางทยอยกลับสู่ระดับปกติ ช่วง high season ของภาคท่องเที่ยว และอานิสงส์จากการเปิดให้บริการของสายสีเหลือง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top