เงินบาทเปิด 36.13 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค ตลาดรอปัจจัยใหม่ จับตาผลประชุม BOJ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.13 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็ก น้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.16 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค

ขณะที่ดอลลาร์เคลื่อนไหวแบบผสม เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก โดยวันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่วนดัชนีเศรษฐกิจสำคัญจะออกมาในสัปดาห์หน้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศดีขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีออกมาปฏิเสธกระแสข่าวการปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงความ เห็นเกี่ยวกับสภาพคล่องในประเทศที่มีเพียงพอต่อการออกพันธบัตร

“วันนี้บาทน่าจะพักฐานรอปัจจัยใหม่ หลังปรับตัวอ่อนค่ามามากแล้ว” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.00 – 36.25 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.58 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 148.13 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0655 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวระดับเดียวกันกับช่วงเย็นวานนี้

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.174 บาท/ดอลลาร์

– ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเงินบาทจะยังคงโน้มไปในทิศทางที่อ่อนค่าในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า และอาจทดสอบระดับใกล้ๆ 36.60 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตา 3 ปัจจัยสำคัญที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี ได้แก่ ท่าทีธนาคารกลาง สหรัฐ(เฟด) และเงินดอลลาร์, ค่าเงินเหยวนและเศรษฐกิจจีน และสถานะดุลบัญชีเดินสะพัด และฐานะการคลังของไทย

– กระทรวงการคลังจ่อชงครม.สัปดาห์หน้า ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ เดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ให้ทันภายในวันที่ 1 ก.พ. 2567

– ส.อ.ท.โอดยอดผลิตรถยนต์ในประเทศซึม งวดเดือน ส.ค. ลดลง 12.27% จากปีก่อน พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ลั่นอีก 1 เดือนหากยังไม่กระเตื้องส่อปรับประมาณการหลุดเป้า 1.9 ล้านคัน

– ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 5-4 ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า BoE จะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยการตัดสินใจของ BoE ถือเป็นการปิดฉากการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยที่ได้ดำเนินมาติดต่อกัน 14 ครั้ง หลังข้อมูลบ่งชี้การชะลอตัวของเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ BoE ประกาศปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของอังกฤษในไตรมาส 3/2566 โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว เพียง 0.1% ในไตรมาสดังกล่าว จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนส.ค.ว่าจะมีการขยายตัว 0.4%

– กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 201,000 รายใน สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2566 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย

– นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital LLC ในนิวยอร์กกล่าวว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นอีกหนึ่งใน ปัจจัยที่อาจสนับสนุนให้เฟดตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 ก. ย.) ขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลา นานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด

– ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย เวลา 10.00 น. ตามเวลาไทย ขณะที่ตลาดคาด การณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultralow Rates) ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อประเมินพัฒนาการ ของเศรษฐกิจและตลาดการเงิน นับตั้งแต่ที่ BOJ ได้ทำการปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ให้มีความยืดหยุ่นมาก ขึ้น ในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top