หุ้นไทยปิดเช้าลบ 4.02 จุดสวนทางภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่หนุน-ขายทำกำไรลดเสี่ยงก่อนหยุดยาว

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,451.97 จุด ลดลง 4.02 จุด (-0.28%) มูลค่าซื้อขายราว 20,239 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับลงสวนทางตลาดภูมิภาคที่ดีดตัวขึ้นตอบรับรายงานประชุมเฟดบ่งชี่กรรมการส่วนหนึ่งหนุนยุติขึ้นดอกเบี้ย และดอลลาร์อ่อนค่าส่งผลเงินบาทแข็งค่า แต่ในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ตลาดบ้านเราจึงขึ้นได้เพียงเล็กน้อยก่อนย่อตัวลง แนวโน้มช่วงบ่ายคาดรับแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว ให้แนวต้าน 1,456-1,460 จุด และแนวรับ 1,443 จุด

SET ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,451.97 จุด ลดลง 4.02 จุด (-0.28%) มูลค่าซื้อขายราว 20,239 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงสวนทางตลาดภูมิภาค โดยทำจุดต่ำสุด 1,449.90 จุด และสูงสุด 1,459.19 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกได้ค่อนข้างดี หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนหนึ่งสนับสนุนให้ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ย่อตัวลงและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า หนุนให้เงินบาทแข็งค่า

อย่างไรก็ตาม ในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนนอกจากเงินบาทแข็งค่า ทำให้มีแรงหนุนเพียงเล็กน้อยจากความหวังว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้นไทย ประกอบกับ บ้านเราจะมีวันหยุดยาว 3 วันติดต่อกัน (13-15 ต.ค.) ทำให้การลงทุนในวันนี้เป็นลักษณะการซื้อเก็งกำไร โดยเฉพาะในหุ้นที่ได้ปัจจัยหนุนจากดอกเบี้ยขาลง เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ และอสังหาฯ เป็นต้น

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ อาจเผชิญแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาว ให้แนวต้านไว้ที่ 1,456-1,460 จุด และแนวรับ 1,443 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 888.48 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

HANA มูลค่าการซื้อขาย 842.27 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 819.48 ล้านบาท ปิดที่ 84.75 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 736.23 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

MTC มูลค่าการซื้อขาย 733.03 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top