CryptoShot: KBANK เทค Satang Pro เปลี่ยนโฉมเป็น Orbix เปิดให้บริการก่อนสิ้นปีนี้

เรียกว่าข่าวดังลั่นฟ้าเมืองไทย เมื่อแบงก์ใหญ่อย่างกสิกรตัดสินใจซื้อเว็บเทรด Satang Pro 97% เพื่อปั้นแบรนด์ “Orbix” งานนี้เหมือนช้างชนช้าง เมื่อกสิกรไทยมี Orbix และไทยพาณิชย์มี InnovestX แถมตลาดหลักทรัพย์ก็มี TDX แต่ลืมกันไปรึเปล่าว่า ก.ล.ต. สั่งห้ามไม่ให้ธนาคารยุ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นเหตุให้ SCB ต้องมีการปรับโครงสร้างไปก่อนหน้านี้ แต่ KBANK กลับซื้อ Satang Pro หรือ ก.ล.ต. จะมีเซอร์ไพรส์รออยู่??

 

KBANK เทค Satang Pro เปลี่ยนโฉมเป็น Orbix พร้อมให้บริการก่อนสิ้นปีนี้

หลังจากที่เคยมีข่าวแบงก์สีม่วงจะซื้อเว็บเทรดสัญชาติไทยสีเขียว แต่ดีลก็ล่มไปเสียก่อน มาวันนี้ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ได้ประกาศทำการเข้าซื้อหุ้น 97% ของ Satang Pro ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

Satang Pro ถือเป็นหนึ่งในเว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรก ๆ ของคนไทย ซึ่งก่อนหน้านั้นจะใช้ชื่อว่า TDAX โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2560 แต่หลังจากนี้ธนาคารกสิกรไทยจะทำการปรับโฉมและเปลี่ยนชื่อเป็น Orbix ซึ่งประกาศจะเปิดให้บริการภายในเดือน พ.ย. นี้

การเปลี่ยนโฉมนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนชื่อ แต่เป็นการยกระดับการให้บริการเพิ่มเติมด้วย โดยจะมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่หลาย ๆ อย่าง เพื่อให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Orbix ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นสนุกและน่าสนใจ

แต่มีจุดหนึ่งที่น่าคิด จำได้หรือไม่ว่า ก.ล.ต. ออกเกณฑ์มาว่าไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ข้องเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ค่ายสีม่วงต้องทำการปรับโครงสร้างต่าง ๆ แต่สำหรับค่ายเขียวคราวนี้เรียกว่าแบงก์ซื้อ Satang Pro โดยตรง ถือว่าผิดเกณฑ์หรือไม่ หรือว่า ก.ล.ต. จะมีเซอร์ไพรส์ งานนี้สงสัยต้องรอดูกันยาว ๆ

 

SafeMoon ส่อแววไม่ Safe หลัง SEC สหรัฐฟ้องข้อหาฉ้อโกง-ฟอกเงิน

เมื่อ 2 ปีก่อนมีเหรียญใหม่ที่น่าสนใจมาก ๆ ออกมาชื่อว่าเหรียญ Safemoon โดยเหรียญนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากเหรียญอื่นทั่วไปคือเมื่อมีการโอนเหรียญ จะมีค่าโอนเกิดขึ้น และค่าโอนส่วนหนึ่งจะถูกนำไปแจกจ่ายให้คนที่ยังถือเหรียญอยู่ อีกส่วนหนึ่งนำไปเพิ่ม liquidity อัตโนมัติ และบางส่วนก็นำไปเผาทิ้ง เรียกได้ว่ายิ่งถือก็มีแต่เพิ่ม โอนไปขายเมื่อไรก็มีแต่ลด

เมื่อทุกคนเห็นเหรียญคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ แบบนี้ ก็พากันซื้อและบอกต่อ ๆ กัน จนมูลค่าตลาดสูงสุดของ Safemoon เคยขึ้นไปถึงกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ และมีเหรียญ Safe ต่าง ๆ ตามออกมามากมาย

แต่หลังจากนั้นสักพัก เมื่อตลาดคริปโทฯ เป็นขาลง เหรียญนี้ก็ซบเซา ราคาลดลงต่อเนื่อง ทั้งยังมีข่าวโดนผู้ใช้งานรวมตัวกันฟ้อง โดนแฮ็กเกอร์ตามแฮ็กอีกมากมาย จนในวันนี้ล่าสุดก็ถึงคราวของ SEC สหรัฐเป็นผู้ฟ้อง SafeMoon และผู้ก่อตั้ง ในข้อหาดำเนินการโครงการทุจริตขนาดใหญ่ผ่านการขายสินทรัพย์คริปโทฯ ที่ไม่ได้ลงทะเบียน, ฉ้อโกงหลักทรัพย์, ฉ้อโกงทางอินเตอร์เน็ต และฟอกเงิน

เรียกได้ว่าแต่ละข้อหาจัดมาเน้น ๆ หนัก ๆ ทั้งนั้น ผลสรุปในอนาคตของเรื่องนี้ก็คงต้องถือเป็นบทเรียนแก่ทั้งผู้ออกเหรียญและผู้เลือกซื้อเหรียญในอนาคตได้ดี

 

Tether เผยสัดส่วนเงินสดสำรองในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่เคยมีมา

Tether Holdings Limited หรือที่เรารู้จักกันในฐานะบริษัทผู้ออกเหรียญ USDT ซึ่งเป็น Stablecoin ตัวหลักที่เราใช้แทนเงินดอลลาร์กันในโลกคริปโทฯ ได้ประกาศผลการตรวจสอบทางการเงิน Q3/2023 จากบริษัทตรวจสอบอิสระชื่อดังมาแล้ว

ปัจจุบัน Tether มีส่วนของเงินสดและสินทรัพย์ที่เทียบเท่าเงินสด (Cash and Cash Equivalents) ในสำรอง (Reserve) สูงถึง 85.7% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เคยมีมาเลย

รายงานนี้ได้เปิดเผยว่า Tether มีการบริหารจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการลดหนี้และการเพิ่มส่วนของเงินสดและสินทรัพย์ที่เทียบเท่าเงินสดใน Reserve ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดคริปโทฯ แต่ถ้าคิดในอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ Tether ลดการลงทุนมาถือแต่เงินสดสำรอง อาจจะเป็นการบ่งบอกถึงสถานะของตลาดว่าตอนนี้ไม่มีตลาดไหนที่น่าลงทุนอีกต่อไปแล้วก็เป็นได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม จากรายงานนี้ก็ทำให้ผู้ที่ถือ USDT ทุกคนสบายใจขึ้นได้แน่นอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 66)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top