หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ-ผลประชุม FED-ECB-BoE

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ และรอการประชุมธนาคารกลางใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้น และอาจมีแรงหนุนกองทุน Thai ESG ช่วยหนุนหุ้นขนาดใหญ่ในระยะสั้น แม้ยังไร้ปัจจัยใหม่ช่วยดันดัชนี ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวแดนบวก พร้อมให้แนวต้าน 1,400 จุด แนวรับ 1,370 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ ซึ่งยังรอการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนพ.ย.ที่จะออกมาในคืนนี้ ประกอบกับยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางใหญ่ที่จะอยู่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แม้ว่าตลาดจะคาดว่าแนวโน้มของธนาคารกลางจะคงดอกเบี้ย และยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว แต่ยังต้องรอถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางต่างๆที่ชัดเจน และมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยอาจจะมีแรงหนุนเข้ามาจากกองทุน Thai ESG ซึ่งจะช่วยหนุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้ยังมีปัจจัยหนุนต่อดัชนีได้บ้างในระยะสั้น แต่ยังขาดปัจบัยใหม่ที่จะผล่กดันดัชนีให้ขึ้นไปได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนตลาดหุนอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาแล้วส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

ให้แนวต้าน 1,400 จุด แนวรับ 1,370 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,404.93 จุด เพิ่มขึ้น 157.06 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,622.44 จุด เพิ่มขึ้น 18.07 จุด หรือ +0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,432.49 จุด เพิ่มขึ้น 28.51 จุด หรือ + 0.20%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,107.65 จุด เพิ่มขึ้น 315.85 จุด หรือ +0.96% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,236.06 จุด เพิ่มขึ้น 34.57 จุด หรือ +0.21% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,986.33 จุด ลดลง 5.11 จุด หรือ -0.17%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ธ.ค.66) ที่ 1,380.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด (+0.16%) มูลค่าซื้อขาย 34,760.77 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,359.69 ล้านบาท (8 ธ.ค.66)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(11 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 71.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ธ.ค.66) อยู่ที่ 6.30 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.63 อ่อนค่าจากสัปดาห์ก่อน หลังดอลลาร์แข็งค่า ตลาดจับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

– จับตาโจทย์หิน “ท่องเที่ยวไทย” ฝ่าคลื่นแข่งขันเดือดทั่วโลก ททท. กางแผนยุทธศาสตร์ปี 67 สานเป้าใหม่รัฐบาล เร่งรายได้ตลาดต่างประเทศเพิ่มอีก 5 แสนล้าน หนุนรายได้รวมแตะ 3.5 ล้านล้านบาท อ้อนรัฐของบ ทำตลาดสู้คู่แข่งดันไทยยืนหนึ่งเวทีโลก จ่อชงยาแรงต่ออายุ “วีซ่าฟรี” พร้อมขยายตลาด เพิ่มวันพำนัก กระตุ้นใช้จ่าย ด้านทัวริสต์จีน ตั้งเป้าโตก้าวกระโดด 8.5 ล้านคน ผนึกแอตต้า เดินหน้าโรดโชว์แดนมังกร 11-15 ธ.ค. ปลุกเชื่อมั่นดึงตลาดกรุ๊ปทัวร์

– “พีระพันธุ์” เตรียมเสนอ ครม.ใช้งบกลางตรึงค่าไฟกลุ่มเปราะบาง 3.99 บาทต่อหน่วย งัดทุกมาตรการบีบค่าไฟงวดใหม่ต่ำกว่า 4.68 บาทต่อหน่วย พร้อมตรึงราคา LPG ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อีก 3 เดือน มีผล 1 ม.ค.-31 มี.ค. 67 มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย

– “หอการค้า” เผยเอสเอ็มอี ภาคท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มภัตตาคาร สถานบันเทิง ขนส่ง ด้าน “กลุ่มสปา-ของที่ระลึก” ยังน่าห่วง ชงรัฐ 3 แนวทางช่วยเหลือ ด้านสมาคมโรงแรมไทย ชี้แนวโน้มธุรกิจโรงแรมท่องเที่ยวปี 67 ตลาดดาวรุ่ง โดดเด่น คือ อินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย

– พาณิชย์เดินหน้าส่งเสริม “ซอฟต์พาวเวอร์” ไทยนำร่องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา “มวยไทย” และสินค้าที่เกี่ยวข้องหลังสำเร็จจากเจ็ตสกี พร้อมจับมือกระทรวงการท่องเที่ยวฯ-ททท. ทำแผนโปรโมตอาหาร “ไทยซีเลกต์” เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยว สินค้าชุมชน สร้างรายได้ให้ชุมชนยั่งยืน

– “สุริยะ” เร่งรัดการลงทุนใน “อีอีซี” มอบ 3 หน่วยงาน “สกพอ.-บีโอไอ-กนอ.” จัดตั้งคณะทำงานร่วมฯ “กลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์” ดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้าลงทุนเพิ่มในไทย กางแผน 4 โครงการหลัก เดินเครื่องก่อสร้างให้เสร็จตามแผน

– น.ส.พิรงรอง รามสูต กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ได้จัดทำ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องการให้บริการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะมีการระบุหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลผู้ให้บริการเนื้อหาสื่อรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิดีโอ ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ผู้ให้บริการไม่ได้เป็นเจ้าของโครงข่ายอินเทอร์เน็ต (โอทีที) เพื่อเข้าสู่การกำกับดูแลภายใต้ กสทช. ซึ่งจะเน้นการกำกับดูแลเท่าที่จำเป็นโดยเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช. เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นแล้วนำกลับมาเสนอบอร์ด กสทช.ให้พิจารณาและประกาศบังคับใช้ในปี 67

– “กก.ไตรภาคี” ตอก “เศรษฐา” สูตรคำนวณค่าจ้างชงเข้า ครม. “เพื่อทราบ” ไม่ใช่ “เพื่อพิจารณา” ระบุ “นายกฯ” ปากไว ซัดการเมืองแทรกแซง ขู่ระวัง “นักร้อง” เยอะ ขณะที่ “พิพัฒน์” ยันเข้า ครม.แน่ 12 ธ.ค. ถ้ามีปัญหาก็กลับไตรภาคี

*หุ้นเด่นวันนี้

– CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 82 บาท โมเมมตัมกำไรในไตรมาส 4/66 คาดว่ายังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากการเปิดห้างใหม่ ทั้ง Central Westville และอยุธยา รวมถึงการเปิดโครงการอสังหาฯเพิ่มอีก 5 โครงการ เราคาดกำไรปี 2566 จบที่ 1.49 หมื่นล้านบาท +36% y-y แนวโน้มปี 2567 คาดว่ายังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดห้าง Central นครสวรรค์ นครพนม กระบี่ และโรงแรมอีก 2 แห่ง บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 14-16% CAGR ในช่วงปี 2566-2570 เราคาดกำไรปี 2567 ที่ 1.58 หมื่นล้านบาท +6%y-y ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER ต่ำเพียง 18.6 เท่า

– BA (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 21 บาท ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานโดยเฉพาะผลกำไรจากการดำเนินงาน ในช่วง 9 เดือนปี 66 เพิ่มขึ้นแตะ 2 พันล้านบาท มากกว่าช่วงก่อน Covid ที่มีกำไรเพียง 351 ล้านบาท และราคาหุ้นคิดเป็น PE เพียง 14 เท่า เทียบเท่าช่วงก่อนก่อโควิด ที่ 22 เท่า

– BBL (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 196 บาท เก็งการฟื้นตัวหากตลาดกลับมาเล่นธีมเฟดยืนดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด (Higher for longer) ในเชิงพื้นฐานคาดกำไร BBL จะเติบโต 16.22% สูงกว่าคาดเฉลี่ยของ Sector ธนาคารที่ 7.3% หนุนจากการตั้งสำรองลดลง และมีธุรกิจในต่างประเทศช่วยหนุน loan growth ขณะที่คาดอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ย 6% ต่อปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top