หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตอบรับอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ตามคาด-รอเงินเฟ้อสหรัฐ

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ ได้รับอานิสงส์จาก Sentiment ต่างประเทศที่ดูดีมากขึ้น โดยเป็นลักษณะของการรีบาวด์หลังช่วงสัปดาห์ที่แล้วปรับลงแรงและนักลงทุนคาดหวังการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ซึ่งเมื่อคืนหลังตลาดปิดก็มีการอนุมัติออกมาตามคาด แต่กรอบการบวกของดัชนีหุ้นไทยอาจไม่กว้างเท่าไร เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามตัวเลข CPI ของสหรัฐในคืนนี้ ขณะที่ประเด็นในประเทศติดตามพัฒนาการของโครงการ Digital Wallet เป็นหลัก

ขณะที่การลงทุนในวันนี้มองว่ากลุ่มที่น่าจะเห็น Sentiment แข็งแรงตอนนี้คือกลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มเนื้อสัตว์และโรงไฟฟ้า ที่น่าจะทยอยปรับตัวขึ้นได้

โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,410 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ม.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,695.73 จุด เพิ่มขึ้น 170.57 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,783.45 จุด เพิ่มขึ้น 26.95 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,969.65 จุด เพิ่มขึ้น 111.94 จุด หรือ +0.75%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,154.17 จุด เพิ่มขึ้น 56.89 จุด หรือ +0.35% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,873.80 จุด ลดลง 3.90 จุด หรือ -0.14% ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 34,871.33 จุด พุ่งขึ้น 429.61 จุด หรือ +1.25%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ม.ค.) ที่ 1,413.52 จุด ลดลง 1.41 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 45,472.82ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,807.05 ล้านบาท (10 ม.ค.)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.(10 ม.ค.67) ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 71.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ม.ค.) อยู่ที่ 6.57 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.08 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้

– คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) มีมติอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF แล้ว ซึ่งเป็นการจัดตั้งครั้งแรกในสหรัฐ โดยข้อมูลที่ระบุบนเว็บไซต์ของ SEC ในวันพุธ (10 ม.ค.) ระบุว่า SEC ได้อนุมัติให้กองทุน 11 แห่งสามารถจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF

– ‘เศรษฐา’ เคารพความเป็นอิสระ ไม่ก้าวก่าย ธปท.เรื่องดอกเบี้ยชี้ไม่มีอำนาจสั่ง แค่นัดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจ พร้อมนัดคุยทุกสัปดาห์ สั่ง คลังก.ล.ต.กำกับหุ้นกู้เสี่ยงสูง ให้ข้อมูลสร้างเชื่อมั่นประชาชน ‘ต่างชาติ’ แห่ซื้อบอนด์ยาวเก็งลดดอกเบี้ย ด้าน กกร.ชี้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่จุดสูงสุดแล้ว หากเฟดลดดอกเบี้ยควรลดตามทันที มองเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 2.8-3.3%ลดกรอบเงินเฟ้อเหลือ 0.7-1.2%

– “เฟทโก้” เผยดัชนีเชื่อมั่นลงทุน 3 เดือนข้างหน้าพุ่ง 38.9% ชี้เงินเฟ้อติดลบไม่น่ากังวลมั่นใจเศรษฐกิจไทยขยายตัว 3-4% พร้อมเผย 4 ธีมการลงทุน และ 4 ความท้าทายระยะสั้นสำหรับปี 2567 ด้าน “เวิลด์แบงก์” ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 2567 ส่อเลวร้ายสุดรอบ 30 ปี ย้ำหากไม่ได้รับการแก้ไข “ทศวรรษ 2020” ส่อกลายเป็นทศวรรษแห่งโอกาสที่สูญเปล่า

– ค้าปลีกไตรมาสแรก “สัญญาณบวก” รับแรงหนุนเทศกาลปีใหม่ วันเด็กตรุษจีน วาเลนไทน์ รัฐอัดฉีดมาตรการดึงนักท่องเที่ยวช้อปลดหย่อนภาษี ลุ้นใช้เงินดิจิทัลหมื่นบาท “เซ็นทรัลพัฒนา” มั่นใจปลุกบรรยากาศจับจ่ายคึกคัก ตรุษจีนสะพัด 1.5 หมื่นล้าน เผยนโยบายฟรีวีซ่า กระตุ้นทัวริสต์จีนเข้าไทยทะลุ 1 หมื่นคนต่อวันเสริมแกร่งกำลังซื้อ

– กกร.เห็นตรงกันว่ารัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนสินเชื่อในการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง โดยให้รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนจัดตั้งในช่วงแรกก่อน จากนั้นถึงนำดอกเบี้ยหรือได้เงินมาบริหารหมุนเวียนในกองทุน เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้มีหลักประกันในการเข้าถึงสินเชื่อ

– กกพ.ประกาศค่าไฟเดือนม.ค.-เม.ย. 2567 ใหม่อยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ด้านไข่ไก่ขึ้นอีก 30 สตางค์ 11 ม.ค.นี้

– ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) ขยายระยะเวลารับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) ปรับปรุงเกณฑ์ Cash Balance หรือซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยเงินสด หลังปรับใช้ T+2 ลูกค้าทุกประเภทเพื่อความเท่าเทียม จนถึง 24 ม.ค. 67

หุ้นเด่นวันนี้

– GULF (ไอร่า) “ทยอยซื้อสะสม” เป้าหมาย 47.00/50.00 บาท คาดจะได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค. – เม.ย. 67 ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด 4.18 บาท/หน่วย Margin ของโรงไฟฟ้า SPP ฟื้นตัวขึ้น ทางเทคนิค ราคาวกตัวขึ้นยกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นสูงขึ้น พร้อมปริมาณการซื้อขายเริ่มเพิ่มขึ้นแล้ว ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนวรับ 44.50 / 44.00 Stop < 43.75

– AP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 14.40 บาท ทยอยสะสมดักรับเงินปันผลปลายปี ซึ่ง AP จ่ายปีละครั้งให้ Dividend yieldสูง 6-7%ต่อปี แนวโน้มกำไรยังทำ All time high ทั้งปี 23 และ 24 ส่วนยอดขาย Presale 4Q23 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 38%qoq และ 24%yoy

– TOP (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท ทิศทาง GRM อยู่ระดับที่ดี ความตึงเครียดในทะเลแดงที่ส่งผลต่อการขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันจากฝั่งเอเชียและตะวันออกเพื่อเข้าสู่ยุโรปทำได้ยากขึ้น และ Saudi Aramco ประกาศปรับลดราคาขายเฉลี่ย (OSP) Arab Light เดือน ก.พ. ลง 1.5-2 เหรียญฯเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ประเมิน 2 ปัจจัยข้างต้นจะส่งผลต่อค่าการกลั่น (GRM) ยังทรงตัวระดับสูง โดยเราคาดค่าการกลั่นปีนี้อยู่ที่ 7 เหรียญต่อบาร์เรลซึ่งจะเป็นบวกต่อ TOP / ได้มีการปรับประมาณการกำไรปี 67E ขึ้น 55% และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 60 บาท สะท้อนต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันรั่วไหลที่ลดลง (จาก 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็น 1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top