หุ้นไทยปิดลบ 5.28 จุดอ่อนแอกว่าภูมิภาค แรงขายกลุ่มงบ Q4/66 คาดแย่-แบงก์หวั่นตั้งสำรองเพิ่ม

SET ปิดวันนี้ที่ 1,408.24 จุด ลดลง 5.28 จุด (-0.37%) มูลค่าซื้อขาย 35,536.61 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง อ่อนแอกว่าภูมิภาค มีแรงขายทำกำไรในหลายกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มที่ตลาดมีความไม่มั่นใจในผลประกอบการไตรมาส 4/66 อาทิ หุ้นกลุ่ม JMART และกลุ่มค้าปลีก เช่น COM7 GLOBAL และ SINGER ขณะที่กลุ่มธนาคารก็ปรับตัวลง นักลงทุนกังวลการตั้งสำรองจากราคารถยนต์มือสองที่ปรับลงแรง และ ITD เลื่อนชำระจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ระยะสั้นมองดัชนีชะลอตัวลดลงใกล้ระดับ 1,400 จุด ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ1,400 จุดและแนวต้าน 1,420 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,408.24 จุด ลดลง 5.28 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 35,536.61 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลง โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,407.26 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,417.64 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 165 หลักทรัพย์ ลดลง 311 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 172 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง อ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดหุ้นไทยมีแรงขายทำกำไรในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ตลาดมีความไม่มั่นใจในผลประกอบการ อาทิ หุ้นกลุ่ม JMART และกลุ่มค้าปลีก เช่น COM7 GLOBAL และ SINGER

ซึ่งกลุ่มค้าปลีกในช่วงที่ผ่านมามีแรงเก็งกำไรเชิงบวกจากการคาดการณ์ ผลดีจากมาตรการ Easy e-Reciept แต่มาตรการดังกล่าวต้องมีการพิจารณาช่วงที่ผลประกอบการดีจะเป็นไตรมาส 1/67 ขณะที่ไตรมาส 4/66 เป็นช่วงของการประกาศมาตรการ ทำให้ตลาดไม่สามารถคาดการณ์ว่าแนวโน้มไตรมาส 4/66 จะดีจริงหรือไม่ สะท้อนจากนักลงทุนที่จะซื้อช่วงปลายปี66 ส่วนหนึ่งอาจมีการชะลอการซื้อเพื่อมาซื้อช่วงต้นปี 67 แทน ทำให้วันนี้มีการปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น

ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังมีความกังวลในการตั้งสำรอง ทั้งธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กจากเรื่องราคารถยนต์มือสองที่ปรับลดลงแรง ทั้งนี้ นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจว่ากลุ่มธนาคารใหญ่ มีการปล่อยกู้ให้ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) หรือไม่ แม้ว่า ITD อาจจะสามารถเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ แต่ในแง่ของธนาคารซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้อาจจะมีการตั้งสำรองบางส่วน ส่งผลให้ลดทอนปัจจัยเชิงบวกของกลุ่มธนาคารใหญ่ไป

แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ช่วงสั้นมองว่าโอกาสที่จะชะลอตัวลดลง ลดลงมาใกล้ระดับ 1,400 จุด ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่ตลาดเริ่มตั้งหลัก โดยคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งตลาดมองว่าตัวเลขน่าจะชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามมองว่าเงินเฟ้อสหรัฐมีผลต่อตลาดไม่มาก ซึ่งตลาดรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/66 ซึ่งสัปดาห์หน้าจะประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์

โดยคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัว บริเวณแนวรับ 1,400 จุดและแนวต้าน 1,420 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,483.10 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,168.48 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,134.62 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

COM7 มูลค่าการซื้อขาย 1,076.75 ล้านบาท ปิดที่ 23.20 บาท ลดลง 1.40 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 946.95 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top