นายกฯ เยือนเยอรมนี หารือ Volkswagen-Infineon Technologies AG ชวนลงทุนไทยเพิ่ม

นายกรัฐมนตรี เยือนเยอรมนี ร่วมหารือผู้บริหาร Volkswagen และ Infineon Technologies AG ชวนลงทุนในไทยเพิ่ม

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พบผู้บริหารบริษัทเอกชนสำคัญของประเทศเยอรมนี นาย Thomas Schafer, Member of the Board บริษัท Volkswagen Group และ CEO ของ Volkswagen Brand ผู้ผลิตยานพาหนะรายใหญ่ของโลก รวมทั้งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ซึ่งมีเทคโนโลยีทางวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูง

ปัจจุบัน บริษัท Volkswagen มีโรงงานผลิตรวม 114 แห่งทั่วโลก รถยนต์ของบริษัทมีจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศ ซึ่ง Volkswagen มีแผนการขยาย Charging Network สำหรับสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายการชาร์จ เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตขึ้น ด้วยการสร้าง Quick Charge 45,000 จุดทั่วโลกภายในปี 2568

นายกฯ เชิญชวนบริษัทฯ มาลงทุนในไทย long term investment และให้ความมั่นใจบริษัทในเรื่องนโยบายด้านการใช้พลังงานสะอาด

ส่วนผู้บริหารบริษัท Infineon Technologies AG เป็นบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และติดอันดับ Top 10 ของโลก มีการดำเนินธุรกิจใน 25 ประเทศ มีลูกค้าหลักในกลุ่มยานยนต์ บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ สำหรับยานยนต์และระบบอุตสาหกรรม ระบบเซ็นเซอร์ คอมพิวเตอร์ ขนาดเล็กที่ใช้สำหรับควบคุมระบบ

ปัจจุบัน บริษัทนี้ใช้พลังงานสีเขียวในกระบวนการผลิตทั้งหมดในโรงงานยุโรป และสำหรับโรงงานในเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงโรงงานในเมืองกูลิมและมะละกา ประเทศมาเลเซีย ก็ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียว 100% แล้วเช่นกัน

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมบริษัทฯ ที่ไม่ได้ลงเงินอย่างเดียว แต่เน้นการลงทุนใน research และ training ให้กับคนไทยด้วย และทางบริษัทมีแนวโน้มจะลงทุนในไทยเพิ่ม และมีแผนร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัย เพื่อสร้างบัณฑิตใหม่ที่มีทักษะเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ผ่านโครงการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Co-op) โครงการ Sandbox และโครงการวิจัยร่วม รวมถึงการส่งนักศึกษาไปฝึกงาน และเรียนรู้วิธีการผลิตชิปที่โรงงานเวเฟอร์ของบริษัทในมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความมั่นใจไปในหลายเรื่อง และย้ำว่า ไทยพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนตามนโยบาย ease of doing business

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top