นางสาวดรุณรัตน์ ภัยโยดิลกชัย หัวหน้าฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นขาขึ้นหลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยมองเป้าหมาย SET Index ปลายปี 67 ที่ 1,500-1,530 จุด จากเดิมมองไว้ที่ 1,360-1,450 จุด โดยให้แนวรับสำคัญใหม่ที่ 1,270 จุด ซึ่งเคยเป็นจุดต่ำสุดเดิม
ทั้งนี้ เป้าหมายใหม่ของ SET Index ปลายปีนี้อยู่บนสมมติฐานกำไรของบริษัทจดทะเบียน (EPS) ที่ 90 บาท/ห้น P/E 15 เท่า ได้รับปัจจัยบวกทั้งนโยบายรัฐบาล เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว เม็ดเงินก้อนใหม่จากกองทุนวายุภักษ์
นางสาวดรุณรัตน์ คาดว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยทั้งปี 67 คาดว่าผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) จะเติบโตราว 2.7% ซึ่งยังไม่รวมนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เชื่อว่าภาคท่องเที่ยวยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 33-35 ล้านคน แต่หลังจาก 8 เดือนแรกเข้ามาแล้ว 23 ล้านคนและกำลังจะเข้าไฮซีซั่นไตรมาส 4 นี้ จึงมีโอกาสที่จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีจะเพิ่มเป็น 36-37 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามา 60-70% จากช่วงก่อนโควิด
และ EPS ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 10% โดยครึ่งปีแรกเติบโตราว 5% YoY จึงคาดว่าในครึ่งหลังปีนี้กำไรน่าจะเติบโต Double digit โดยในไตรมาส 2/67 กำไร บจ.เติบโตได้ถึง 17%YoY ซึ่ง Sector ที่เติบโตดี ได้แก่ เกษตร อาหารและเครื่องดื่ม พลังงาน ค้าปลีก และขนส่ง
“Upside risk จากนโยยายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งค่อนข้างแน่นอนว่าเฟสแรกจะเริ่มในเดือน ก.ย.วงเงิน 1.5 แสนล้านบาทแจกให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ผู้พิการ 14-15 ล้านคนเป็นเงินสด แต่ยังไม่รู้รายละเอียด คาดว่าจะช่วย GDP ไม่ถึง 1% ก็ต้องดูว่าเงินจะหมุนเวียนในระบบได้ขนาดไหน” นางสาวดรุณรัตน์ กล่าว
สำหรับความชัดเจนการเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ของกองทุนวายุภักษ์ 1-1.5 แสนล้านบาท เป็นวงเงินค่อนข้างใหญ่ และสามารถมาชดเชยกับการที่ต่างชาติขายหุ้นไทยออกไป (Net Sell) ราว 1.2 แสนล้านบาท โดยคาดว่าเม็ดเงินใหม่ของกองทุนวายุภักษ์จะเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้
นางสาวดรุณรัตน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจไทยไม่ได้เติบโตตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็ยังมีตัวช่วยสำคัญ คือ แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งอเบอร์ดีนฯ มองว่าใน 6 เดือนข้างหน้าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% มาที่ 2% ในช่วงสิ้นปี 67 โดยขณะนี้เหลือการประชุม กนง.อีก 2 ครั้งส่วนสิ้นปี คาดว่าจะปรับลดครั้งละ 0.25%
ดังนั้น แนะนำช่วงที่เหลือของปีนี้ Sector ที่มองว่าจะเติบโตได้ดี ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่ม Domestic Link อาทิ ค้าปลีกรายใหญ่ อย่าง CPALL, CPAXT และ Consumer Finance ส่วนกลุ่มโรงแรม ปรับลดน้ำหนักลงเป็น Neutral เพราะหากบริษัทนั้นมีหนี้ต่างประเทศมากก็มีโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเงินสกุลต่างประเทศอ่อนค่าลง หรือการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ก็มีค่าใช้จ่ายและอาจขาดทุนในช่วงแรก
คงมองบวกตลาดหุ้นสหรัฐ เลือกตั้งแค่ผันผวนระยะสั้น
นาย David Hanzl, Head of APAC Wholesale จากอเบอร์ดีน กล่าวว่า มีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐจาก GDP สหรัฐเติบโตขึ้น รับผลจากวงจรดอกเบี้ยขาลง ขณะที่อัตราว่างงานลดลง และอัตราเงินเฟ้อก็ปรับตัวลดลงตามลำดับ ทำให้มองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐยังดีอยู่ ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ส่วนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เห็นว่าจะทำให้ตลาดผันผวนในระยะสั้น แต่ควรมองระยะกลางและระยะยาว รวมทั้งโฟกัสกับคุณภาพของบริษัทในตลาดหุ้น โดยแนะหุ้นกลุ่ม Healthcare กลุ่ม consumer ส่วนกลุ่ม Technology แม้ราคาขึ้นไปสูงแล้วแต่พื้นฐานก็ยังเติบโตได้ดี
ขณะที่มองว่าตลาดเอเชียก็ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะตลาด Frontier ก็มองว่าจะสามารถทำกำไรได้ดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 67)
Tags: SET, SET Index, กองทุนวายุภักษ์, ดรุณรัตน์ ภัยโยดิลกชัย, อเบอร์ดีน