นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าปี 67 จะทำรายได้เข้าเป้า 1,200-1,400 ล้านบาท เติบโต 30-40% จากปี 66 หลังจากครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 527.15 ล้านบาท เติบโต 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2/67 ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาส โดยเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบไตรมาส 2/66 และมั่นใจว่าผลประกอบการจะพลิกกลับมาทำกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4/67
สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 1.2-1.4 ล้านบาทนั้น ส่วนหนึ่งเป็นสัญญาให้บริการที่เป็นรายได้ประจำ (Recurring Revenue) ที่จะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้มากกว่า 750 ล้านบาท
นายสมชาย กล่าวว่า ครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 527.15 ล้านบาท โดยหลักมาจากธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ที่เพิ่มขึ้น 49.8% และรายได้จากการบริการจัดหาบุคลากรทางด้านระบบงานสารสนเทศ ที่เติบโตขึ้น 21.0% จากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น
รายได้ประจำ (Recurring Revenue) ครึ่งปีแรกยังคงแข็งแกร่งและเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน โดยอยู่ที่ 377.42 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของรายได้รวม ซึ่งมาจากการให้เช่าใช้ซอฟต์แวร์ (Software Subscription) จาก 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ ซอฟต์แวร์ Salesforce จากธุรกิจด้านบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และ ซอฟต์แวร์ Oracle Cloud ERP จากธุรกิจด้านวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) รวมถึงสัญญาการให้บริการดูแลระบบรายปี (Managed Service) และรายได้จากการบริการจัดหาบุคลากรทางด้านระบบงานสารสนเทศ (IT Outsourcing) สำหรับธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่เคยเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีรายได้ประจำจากการอนุญาตให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์ จากธุรกิจนี้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อม และยกระดับความความรู้ความสามารถของบุคลากรให้พร้อมกับการให้บริการเทคโนโลยี AI แล้ว บริษัทฯ และกลุ่มบริษัทในเครือได้เลือกนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ไอซีอี คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ iCE ได้ ร่วมกับ Entomo Labs Sdn Bhd จากประเทศ มาเลเซีย จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท ไอซ์ เอ็นโตโม จำกัด หรือ iCE Entomo เพื่อให้บริการแพลตฟอร์ม entomo ซึ่งเป็น People Experience Platform ให้แก่องค์กรธุรกิจในประเทศไทย
โดยแพลตฟอร์มนี้ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ควบคู่ไปกับการใช้ Generative AI ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับพนักงาน และเสริมศักยภาพของพนักงานผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อวางแผนด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน การพัฒนาทักษะและ ความสามารถพิเศษ การจัดการการเรียนรู้ การมีสุขภาพที่ดี และเสริมสร้างมีส่วนร่วมกับพนักงานในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตของพนักงาน ตั้งแต่การจ้างงานไปจนถึงการ เกษียณอายุ และแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้ถูกออกแบบเพียงเพื่อใช้ในระดับองค์กร อุตสาหกรรม เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ได้ในระดับชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ไอแอนด์ไอ เวนเจอร์ จำกัด (iiV) ได้ก่อตั้ง AI Lab โดยเป็นทีมงานคนไทยทั้งหมด เพื่อพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยี AI บน InsurTech Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของ iiV รวมถึงการรองรับความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าในอนาคต เช่นการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ EV ทางด้านแพลตฟอร์ม Moverse Inspection บริการตรวจสภาพรถยนต์ผ่านการถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยี AI ที่ได้เปิดตัวไปแล้วเมื่อปี 66 นั้น มียอดการใช้บริการตรวจสภาพรถยนต์ Moverse Inspection ไปแล้วมากกว่า 200,000 รายการ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในครึ่งปีหลัง 2567 นี้ ได้มีการวางแผนเปิดตัวแพลตฟอร์ม Moverse Claim สำหรับการเคลมประกันรถยนต์ อีกทั้งแพลตฟอร์ม Vitaverse Claimสำหรับการเคลมประกันสุขภาพ โดยทั้งหมดนี้ พัฒนาโดย AI Lab ของ iiV
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 67)
Tags: IIG, สมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์, ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป