
คริสตาลินา กอร์เกียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเมื่อวันจันทร์ (5 พ.ค.) ว่า IMF ได้แนะนำให้จีนลดพึ่งพาการส่งออกในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เมื่อถูกถามในที่ประชุม Milken Institute Global ในลอสแอนเจลิสว่า IMF จำเป็นต้องเข้มงวดกับจีนมากขึ้นหรือไม่ ภายหลังจากที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ IMF หันกลับมาทำภารกิจหลักด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ กอร์เกียวาตอบว่า IMF กำลังทำสิ่งนั้นอยู่แล้ว
ในระหว่างการประชุมฤดูใบไม้ผลิของ IMF และธนาคารโลกเมื่อเดือนที่แล้ว เบสเซนต์กล่าวว่า IMF และธนาคารโลกควรกลับไปทำภารกิจหลักด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หลังจากที่เน้นเรื่องสภาพอากาศ ความเท่าเทียมทางเพศ และความเสมอภาคมากเกินไป
เบสเซนต์ยังเรียกร้องให้ IMF พูดความจริงอย่างตรงไปตรงมา และกล้าระบุชื่อประเทศต่าง ๆ อย่างจีน ที่ใช้นโยบายบิดเบือนเศรษฐกิจโลก และบริหารค่าเงินอย่างไม่โปร่งใสมาหลายสิบปี
ด้านกอร์เกียวากล่าวว่า IMF พูดชัดเจนมาระยะหนึ่งแล้วว่า จีนจะต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญ 4 ด้านที่ส่งผลทั้งในประเทศและระดับโลก อย่างแรกคือ ต้องเปลี่ยนจากการพึ่งพาการส่งออกไปสู่การบริโภคภายในประเทศ อย่างที่สองคือ ต้องแก้ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเสริมว่า จีนยังจำเป็นต้องส่งเสริมภาคบริการเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และลดบทบาทของภาครัฐในระบบเศรษฐกิจลงด้วย
อย่างไรก็ตาม กอร์เกียวายอมรับว่า รัฐบาลจะยังคงมีบทบาทสูงในเศรษฐกิจจีนต่อไปอีกระยะหนึ่ง
กอร์เกียวายังกล่าวด้วยว่า จีนอาจเผชิญแรงกดดันด้านเงินฝืด เนื่องจากความต้องการสินค้าจีนจากสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะการกำหนดภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ยุโรปเองก็มีแนวโน้มต้องการสินค้าจีนลดลงซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของยุโรปลง ขณะเดียวกันสหรัฐฯ เองนั้นจะเผชิญผลกระทบด้านอุปทานที่อาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ค. 68)
Tags: กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, คริสตาลินา กอร์เกียวา, ไอเอ็มเอฟ