
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มากุโระ กรุ๊ป [MAGURO] เปิดเผยว่า การดำเนินงานไตรมาส 1/68 ยังคงสร้างผลการดำเนินงานที่ดี ตั้งแต่ต้นปี มีรายได้รวม 415.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกับปีก่อน 40% และมีกำไรสุทธิ 32.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากจากช่วงเวลาเดียวกับปีก่อน 61.5% จากกำไรสุทธิ 20 ล้านบาทในปีก่อน เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ผลกำไรเติบโตสูงกว่า 61.5 % เป็นความท้าทายจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก และ สถานการณ์ภายในประเทศตั้งแต่ต้นปี โดยต่อเนื่องมาจากปี 67 ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายลดลง โดยจะเห็นจากข่าวร้านอาหารชื่อดังปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก อีกทั้งข้อมูลจากนายกสมาคมภัตตาคารไทย ระบุว่าธุรกิจร้านอาหารในปี 68 เต็มไปด้วยปัจจัยลบ สัดส่วนกำไรอาจลดลงไปถึง 50% รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ลดความถี่ของการทานอาหารในร้าน และลดปริมาณ ระดับราคาเมนูที่สั่ง
ด้วยปัจจัยดังกล่าว ในครึ่งปีหลัง 68 นี้ บริษัทฯ มีแผนจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และดำเนินแผนการตลาดเพื่อกระตุ้นผู้บริโภคอย่างสอดคล้องกับเทรนด์การบริโภค และพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิ และยอดขายร้านเดิม (SSSG) รวมถึงสร้างยอดขายเพิ่มจากการขยายสาขาในแบรนด์ที่สามารถทำกำไรสุทธิ (Margin) ได้สูงกว่า และขยายครอบคลุมพื้นที่ทำเลศักยภาพใน กทม. อย่างเช่นแบรนด์ TONKATSU AOKI ร้านหมูทอดทงคัตสึ ได้ขยายสาขาในระยะเวลา 2 เดือน โดยเปิดสาขาที่ 2 ที่ Velaa Sindhorn Village Langsuan ชั้น B1 สาขาที่ 3 ที่ One Bangkok ชั้น 3 อาคาร The Storeys และสาขาที่ 4 สาขาล่าสุด ที่เซ็นทรัล พระราม 2 โดยได้กระแสตอบรับจากผู้บริโภคในทุก สาขาอย่างล้นหลาม
สำหรับแผนการเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้า premium mass ที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และไม่มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจมากนัก โดย Maguro ยังยึดมั่นในนโยบาย Give More อย่างมั่นคง เพื่อสร้างความพึงพอใจและส่งมอบความคุ้มค่าให้กับ ลูกค้า พร้อมกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดีให้ลูกค้าทุกคน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 68)
Tags: MAGURO, จักรกฤติ สายสมบูรณ์, มากุโระ กรุ๊ป, หุ้นไทย