WHAUP จ่อรับรู้รายได้ลูกค้าใหม่น้ำอุตสาหกรรม-Solar Rooftop หนุนครึ่งปีหลังฟื้นโต

นายประพนธ์ ชินอุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ [WHAUP] เปิดเผยว่าแนวโน้มการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากรับรู้รายได้ธุรกิจน้ำจากกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) มากกว่า 100 เมกะวัตต์ในปีนี้

โดยธุรกิจไฟฟ้าตั้งเป้า จำนวนกำลังการผลิตรวมสิ้นปี 68 1,185 เมกะวัตต์ ซึ่งในไตรมาส 1/68 มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทที่ 980 เมกะวัตต์ และเป็นจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 704 เมกะวัตต์ ทั้งนี้มองว่ารายได้จากธุรกิจ Solar Rooftop จะเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย 5 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของรายได้ถึง 7 เท่า

ขณะที่แนวโน้มส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าในช่วงที่เหลือของปี มองว่าสเปรดของโรงไฟฟ้า SPP มีแนวโน้มที่อ่อนตัวลง แม้ค่า Ft จะปรับลดลง แต่ค่าแก๊สก็มีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ช่วงที่เหลือของปีจะไม่มีการปิดซ่อมอีก น่าจะช่วยให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจน้ำ ตั้งเป้ายอดขายและบริหารน้ำปี 68 รวมทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในไตรมาส 1/68 มียอดขายน้ำ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะรับรู้รายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่หรือกลุ่ม Data Center ที่มีความต้องการใช้น้ำปริมาณมาก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน และคาดว่าจะเริ่มเปิดโรงงานปี 69 โดยบริษัทจะบันทึกรายได้เข้ามาก่อนจำนวนหนึ่งในช่วงครึ่งปีหลังปี 68 เป็นค่าธรรมเนียมการขอใช้น้ำเกินกว่าที่จัดสรร (one-time charge) หลังจากนั้นเมื่อเริ่มดำเนินการใช้น้ำในปีหน้า บริษัทจะรับรู้รายได้จากการจำหน่ายน้ำต่อไป

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/68 บริษัทฯ รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 937 ล้านบาท มีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) 228 ล้านบาท ลดลง 10% และ 39% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 224 ล้านบาท ลดลง 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการลดลงของกำไรปกติมีสาเหตุหลักจากส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าลดลง จากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/67 บริษัทฯ มีการรับรู้รายการพิเศษเกี่ยวกับรายได้เงินชดเชยจากการประกันภัย และจากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่มีการรับรู้ Energy Margin ลดลง อย่างไรก็ตามรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solr Rooftop) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของกำลังการผลิตไฟฟ้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top