
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เห็นชอบให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อซีเรียในวันอังคาร (20 พ.ค.)
คายา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายการต่างประเทศของ EU โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X หลังการหารือร่วมกันที่กรุงบรัสเซลส์ว่า “เราต้องการช่วยเหลือชาวซีเรียในการสร้างประเทศซีเรียขึ้นมาใหม่อย่างสงบสุขและไม่มีการแบ่งแยก” และย้ำว่า EU ยังคงยืนเคียงข้างประชาชนชาวซีเรียเหมือนที่ทำมาตลอด 14 ปี
การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ EU เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงจุดยืนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาจะสั่งยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อซีเรีย หลังเผชิญสงครามกลางเมืองยืดเยื้อยาวนานถึง 14 ปี
อย่างไรก็ตาม EU จะยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตร “ระบอบอัสซาด” รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง อย่างเช่นอาวุธและเทคโนโลยีที่อาจถูกนำไปใช้ในการปราบปรามประชาชนในประเทศ และจะใช้มาตรการเพิ่มเติมกับผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและผู้สร้างความไม่สงบในซีเรีย
กระทรวงการต่างประเทศซีเรียระบุว่า การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจะเปิดช่องทางใหม่ ๆ สำหรับความร่วมมือ โดยรัฐบาลซีเรียพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจและนักลงทุนจากยุโรป เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ EU ได้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงาน การขนส่ง การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องไปบางส่วนแล้ว แต่หลายประเทศสมาชิกเห็นว่ายังไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของซีเรีย
โยฮันน์ วาเดอฟูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ระบุว่า EU ต้องการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กับซีเรีย แต่ก็คาดหวังให้มีนโยบายที่ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มและทุกศาสนา และหวังว่าซีเรียที่มีเอกภาพจะสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 68)
Tags: EU, กระทรวงการต่างประเทศ, ซีเรีย, สหภาพยุโรป, เศรษฐกิจ