โบรกแนะกลยุทธ์การลงทุน 5 Scenario รอลุ้นข้อสรุปเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ

บล.กรุงศรี ระบุว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ไทย-สหรัฐกำลังหาข้อสรุปการเจรจาการค้า หลังจากเวียดนามเป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ที่ได้รับข้อเสนอจากสหรัฐฯที่ 20% สำหรับสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม ส่วนสินค้ากลุ่ม Transshipping จะถูกเก็บที่ 40% นอกจากนี้ เวียดนามจะงดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ

KSS แบ่งเป็น 5 Scenario ที่จะมีผลต่อการลงทุนระยะถัดไป และกลยุทธ์เพื่อให้นักลงทุนเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ดังนี้คือ

  1. ไทยได้ดีลภาษี 10–15% (ดีลดีกว่าเวียดนาม) คาด SET จะตอบรับทางบวก Bullish +3–5% ไทยถูกมองเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ Fundflow ไหลกลับไทย เน้นลงทุนกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม WHA, AMATA รับ FDI China plus 1, Export Tech เน้น DELTA KCE HANA, ส่งออก TU ITC AAI CPF STA, กลุ่มนำเข้า (กรณีไทยตกลงงดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ ฯ เช่นกัน) COM7 ADVICE SYNEX BE8 BBIK GULF GPSC กลุ่ม Infra+Import Technology Play ADVANC TRUE
  2. ไทยได้ดีลภาษี 15–18% (ดีกว่าเวียดนามเล็กน้อย) คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,130-1,180 หุ้นเด่นเน้น Selective Export: KCE HANA นิคมฯ WHA AMATA (ยังสะสมได้) นำเข้า (กรณีไทยตกลงงดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เช่นกัน) ADVANC COM7 ADVICE INSET นำเข้าก๊าซ :PTTGC GPSC BGRIM
  3. ไทยได้ดีลภาษี 19–21%(เท่าเวียดนาม) ประเมินเป็นกลางถึงบวกแคบต่อ SET หุ้นเด่นเน้น กลุ่มDomestic Defensive: BDMS CPALL โรงไฟฟ้า: GULF GPSC เปิดเมือง-ท่องเที่ยว: MINT CENTEL กลุ่ม เช่าซื้อ KTC MTC
  4. ไทยได้ดีลภาษี 22–25% (แย่กว่าเวียดนาม) SET มีโอกาสแกว่งต่ำกว่า 1,100 จุด เน้นหุ้นพลังงาน PTTEP BANPU โรงพยาบาล: BDMS Domestic Laggards ADVANC GULF เช่าซื้อ KTC MTC SAWAD
  5. ไทยถูกเก็บภาษี >25% ( Worst Case) SET ปรับฐานและมีโอกาสปรับลงทดสอบ low เก่า บริเวณ 1,053 จุด เน้นหุ้นดอกเบี้ยลด KTC MTC, High Yield ADVANC AP, หนี้สูง อาทิ TRUE MINT CPALL กลุ่ม Energy Defensive: GULF BCPG กลุ่ม Healthcare BDMS BCH CHG ท่องเที่ยว CENTEL ERW

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 68)