
หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (Huawei Technologies) ครองตำแหน่งบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ตโฟนจีนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี โดยการกลับมาครองอันดับ 1 ในครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากการออกแบบและมีซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ที่สามารถดึงดูดผู้ใช้ในตลาดจีนที่กำลังชะลอตัว
ข้อมูลจากบริษัทวิจัย IDC ระบุว่า หัวเว่ยมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนจีนอยู่ที่ 18.1% ขณะที่บริษัทคู่แข่งชั้นนำรายอื่น ๆ อย่าง วีโว (Vivo) และออปโป (Oppo) มีส่วนแบ่งตลาดลดลง โดยยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนของหัวเว่ยในไตรมาส 2 อยู่ที่ 12.5 ล้านเครื่อง ลดลง 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาดของหัวเว่ยฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้ผลักดันให้หัวเว่ยหันมาพัฒนาฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีของตนเอง ซึ่งรวมถึงชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ในปี 2567 หัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ตโฟนหลายรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเซมิคอนดักเตอร์ที่ออกแบบและผลิตในประเทศ รวมถึงสมาร์ตโฟนพับได้สามทบเครื่องแรกของโลกที่ทางบริษัทนำออกจำหน่าย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้นำระบบปฏิบัติการของตนเองมาใช้ในสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ เพื่อทยอยเปลี่ยนผ่านจากการใช้ระบบแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล (Google)
สำหรับยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนโดยรวมของจีนในไตรมาส 2 ลดลง 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 69 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกหลังจากที่ขยายตัวติดต่อกันหกไตรมาส เนื่องจากแรงผลักดันการเติบโตที่มาจากนโยบายอุดหนุนของรัฐบาลจีนเริ่มลดน้อยลง ท่ามกลางภาวะตลาดที่อ่อนแอลงเป็นวงกว้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 68)