
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเล็ตสบม.ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” รุ่นอายุ 10 ปี จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ย 1.70% ต่อปี ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย 2.40% ต่อปี และปีที่ 8-10 อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.49% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
พันธบัตรรุ่นนี้ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท ซื้อเพิ่มครั้งละ 100 บาท วงเงินซื้อสูงสุดต่อครั้งไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อคน ใช้วิธีจัดสรรแบบ First-Come First-Served (มาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน) โดยหากวงเงินจำหน่ายคงเหลือน้อยกว่าวงเงินที่ซื้อ ผู้ซื้อจะไม่ได้รับการจัดสรรและจะคืนเงินให้ผู้ซื้อทั้งจำนวน โดยไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยหรือค่าตอบแทนอื่นใด จำหน่ายให้บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม-7 สิงหาคม 2568
พันธบัตรวอลเล็ต สบม. ตอบโจทย์เรื่องการออมและการลงทุน เพราะความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยหลังถือพันธบัตรไม่ต่ำกว่า 6 เดือน สามารถขายต่อในตลาดรองผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่ทุกคนเข้าถึงง่าย สะดวก ปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง รับเงินทันที ไม่มีค่าธรรมเนียม อีกทั้ง ยังส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงการออมและการลงทุนอย่างทั่วถึง ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ในด้านการลดความเหลื่อมล้ำและการแก้ปัญหาโลกร้อน จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนในรูปแบบไร้กระดาษ

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ร่วมจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ฯ อีก 1 รุ่น คือ อายุ 10 ปี สำหรับบุคคลธรรมดา วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ย 1.70% ต่อปี ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย 2.40% ต่อปี และปีที่ 8-10 อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.49% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคม 2568
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนพันธบัตรบนวอลเล็ต สบม. สามารถดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง เปิดใช้งานวอลเล็ต สบม. โอนเงินเข้าวอลเล็ตฯ ด้วย Wallet ID หรือ QR PromptPay ผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคาร เลือกรุ่นพันธบัตรที่ต้องการซื้อ ระบุจำนวนเงิน และกดยืนยันการชำระเงิน ด้วยรหัส 6 หลัก (PIN) จะได้รับหลักฐาน เป็น E-Slip Payment ที่จัดเก็บในมือถืออัตโนมัติ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 68)