หุ้นไทยแนวโน้มเช้าแกว่งพักฐาน กลับมากังวลภาษีทรัมป์หลังปิดดีลญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ ราคาน้ำมันร่วงกดหุ้นพลังงาน

นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ถึงพักฐาน รับแรงกดดันหลังญี่ปุ่นและฟิลลิปปินส์ปิดดีลเจรจาการค้าสหรัฐฯ โดยญี่ปุ่นจะถูกเก็บภาษีในอัตรา 15% ลดลงจาก 25% และฟิลิปปินส์ที่ 19% จากเดิม 20%ซึ่งถือเป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำ ขณะที่การเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลงต่อเนื่องมาติดต่อกันหลายวันถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งพักฐานไซด์เวย์ ถึงแม้ sentiment ตลาดภูมิภาควันนี้จะออกมาดี หลังญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ ต่างบรรลุข้อตกลงการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ลดลงจาก 25% และฟิลิปปินส์ที่ 19% จากเดิม 20% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำทั้งคู่ ในขณะที่การเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน ทำให้หุ้นไทยวันนี้ถูกกดดัน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลงต่อเนื่องมาติดต่อกันหลายวัน จะเข้ามาถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี

แนวโน้มในวันนี้ แนะนำให้ติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 โดยกลุ่มธนาคารที่เปิดเผยไปแล้ว สามารถทำได้ดีกว่าคาด หลังจากนี้ให้รอผลประกอบการของกลุ่ม real sector ต่อไป รวมถึงติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. ในภูมิภาคยุโรป และยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ

โดยให้กรอบแนวรับ 1,180 จุด และแนวต้าน 1,200 – 1,205 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (22 ก.ค.) 44,502.44 จุด เพิ่มขึ้น 179.37 จุด หรือ +0.40%, และดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,309.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.02 จุด หรือ +0.06% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,892.68 จุด ลดลง 81.49 จุด หรือ -0.39%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 40,189.18 จุด เพิ่มขึ้น 414.26 จุด หรือ +1.04%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 25,348.30 จุด เพิ่มขึ้น 218.27 จุด หรือ +0.87% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,588.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.02 จุด หรือ +0.20%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ก.ค.) 1,191.75 จุด ลดลง 16.38 จุด (-1.36%) มูลค่าซื้อขาย 49,095.62 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (22 ก.ค.) 1,830.90 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (22 ก.ค.) ลดลง 99 เซนต์ หรือ 1.47% ปิดที่ 66.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ก.ค.) อยู่ที่ 4.03 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.17 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค เกาะติดเจรจาภาษีสหรัฐหลังปิดดีลญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์

– ครม.ไฟเขียว ตั้ง “วิทัย รัตนากร” นั่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ แทน “เศรษฐพุฒิ” ที่จะครบวาระ 30 ก.ย.นี้ เผยมีคุณสมบัติครบถ้วน มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ การ เงิน การธนาคาร เตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป “พิชัย”เชื่อร่วมงานราบรื่น บอกดูเอาเองผลตอบรับเป็นอย่างไร ชี้เรื่องเร่งด่วนต้องแก้หนี้ ส่วนนโยบายการเงิน ให้เป็นอิสระ แต่ต้องสอดคล้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

– ‘คลัง’ เคาะเปิดจำหน่ายบอนด์ออมทรัพย์ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท รุ่นอายุ 10 ปี ชูดอกเบี้ยสูงสุด 3.40 ต่อปี ดีเดย์ 30 ก.ค.2568 ส่วน G-Token คาดเปิดจำหน่ายได้ปลายเดือน ส.ค.นี้

– ดีเดย์ 25 ส.ค. เปิดให้ลงทะเบียน “ทางรัฐ” ใช้สิทธิ์ 20 บาทตลอดสายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. มั่นใจระบบไม่ล่ม ย้ำทุกคนได้สิทธิ์ลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง ไม่มีโควตา ไม่มีหมดอายุ ด้าน “ชัชชาติ” ลุยขยับ 5,000 ป้ายรถเมล์ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพื่อความสะดวก

– “ซีอีโอแบงก์” พาเหรดส่งสาร เตือน “เศรษฐกิจไทย” ครึ่งปีหลัง “น่าห่วง” เผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งส่งออกชะลอตัว ภาษีทรัมป์ และท่องเที่ยวหดตัว “กสิกรไทย” ชี้มีความเสี่ยงครึ่งหลังเศรษฐกิจจะไม่เติบโต “เอสซีบี เอกซ์” มองเศรษฐกิจยังคงผันผวนสูง “กรุงไทย” เตือน รับมือภาษีสหรัฐ “ทีทีบี” ชี้ศก.เต็มไปด้วยความท้าทาย-ลูกหนี้น่าห่วงขึ้น “กรุงศรีอยุธยา” ชี้เศรษฐกิจอ่อนแอกระทบลงทุนเอกชน

– “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ยอดผู้ใช้สิทธิอืด ระบบลงทะเบียนไม่เสถียร เกิดปัญหาใหม่ทุกวัน โรงแรมหลายแห่งปิดระบบจอง หวั่นมีปัญหาขั้นตอนเบิกเงินสนับสนุนจากรัฐ ได้ไม่คุ้มเสีย ล่าสุดรอไม่ไหวเตรียมอัดแคมเปญ “ราคาคนไทย” หนุนอีกแรง ชี้ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมจองห้องพักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เชื่อถูกและสะดวกกว่า ททท.เผยสิทธิคงเหลือ 3 แสนสิทธิ “ชลบุรี-ประจวบฯ-เพชรบุรี” ขึ้นแท่นปลายทางยอดนิยม “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวฯ จ่อกระตุ้นต่ออีก 6 โครงการใหญ่

*หุ้นเด่นวันนี้

– CBG (ทิสโก้) ซื้อ ราคาเป้าพื้นฐาน 72 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/68 ที่ 804 ลบ. +16% YoY และ +6% QoQ จากยอดขาย energy drink ในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดต่อเนื่อง, การส่งออกคาดชะลอลงจากกัมพูชา เนื่องจากฐานสูงและการเลื่อนส่งสินค้าจากการปิดด่าน แต่ยอดขายยังเป็นปกติ, คาดกำไรปี 68-69 โตเฉลี่ยปีละ 10%,

– TFM (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.60 บาท แนวโน้มช่วง ไตรมาส 2-3/68 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ โดยยอดขายอาหารสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 68 เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี รับดีมานด์อาหารกุ้ง-ปลากะพง จะเข้าช่วง high season (ไตรมาส2-3) ในปี 68 บริษัทฯ มีงบประมาณลงทุนรวมกว่า 300 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรลดต้นทุนและขยายกำลังการผลิต นอกจากนี้คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงจากการเจรจาการค้าที่ไทยอาจจะถูกสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เข้ามาทุ่มตลาด แต่คาดไม่กระทบต่อความต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ (กุ้ง ปลา) ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรในปี 68 ที่ 567 ล้านบาท +6%YoY

– SYNEX (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 14.25 บาท แนวโน้ม ไตรมาส2/68 เดินหน้าทำ new high ต่อเนื่องทั้งยอดขายและกำไร โดยได้แรงหนุนจาก Nintendo Switch 2 ช่วงปลายไตรมาส คาดกำไรปกติ 162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% QoQ เพิ่มขึ้น 25% YoY โมเมนตัมกำไรไตรมาส 3/68 คาดจะยังทำ New High ต่อเนื่องจาก Apple ที่เปิดตัวสินค้าใหม่และรับรู้ได้ได้ Nintendo Switch 2 เต็มไตรมาส เราประเมินว่าประมาณการกำไรปี 68 ของ Consensus ที่ 702 ลบ. +12% YoY อาจมี upside ราว 5-10%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)